เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้กรมทางหลวง (ทล.) และกรมทางหลวงชนบท (ทช.) จัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่โดยด่วน เพื่ออำนวยความสะดวกและติดตามสถานการณ์อุทกภัย (น้ำท่วม) ในพื้นที่ภาคใต้ รวม 6 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ตรัง และพัทลุง 24 ชั่วโมง (ชม.) และเข้าช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบข้อมูล รวมถึงดำเนินการติดตั้งป้ายเตือน ป้ายแนะนำเส้นทางเลี่ยงบริเวณสายทางที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม

นายสุริยะ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ได้มอบหมายให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำหนดแผนหากเกิดสถานการณ์อุทกภัยที่อาจจะเกิดขึ้น และเตรียมความพร้อมในขั้นตอนการป้องกัน (ก่อนเกิดภัย) การเผชิญเหตุ (ขณะเกิดภัย) และขั้นตอนการฟื้นฟู (หลังเกิดภัย) นำไปสู่การบรรเทา แก้ไข หรือคลี่คลายสถานการณ์ในพื้นที่ให้สำเร็จลุล่วงโดยเร็ว พร้อมกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรายงานผลการดำเนินงานมายังกระทรวงคมนาคม เพื่อรับทราบสถานการณ์ในแต่ละพื้นที่ด้วย ทั้งนี้ประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลการเดินทางเพิ่มเติม หรือแจ้งเหตุด่วนเหตุร้ายระหว่างเดินทางได้ที่สายด่วน ทล. โทร. 1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชม.) สายด่วนมอเตอร์เวย์ โทร. 1586 กด 7 ตำรวจทางหลวง โทร. 1193 และสายด่วน ทช. โทร. 1146

ด้านนายมนตรี เดชาสกุลสม อธิบดี ทช. กล่าวว่า สถานการณ์ฝนตกหนักยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่องในพื้นที่ภาคใต้โดยเฉพาะจังหวัดนครศรีธรรมราช ส่งผลให้มีปริมาณน้ำท่วมสูงปิดทับเส้นทางจราจรในหลายสาย ประชาชนไม่สามารถสัญจรไปมาได้ จึงได้สั่งการไปยังสำนักงานทางหลวงชนบทที่ 11 (สุราษฎร์ธานี) และแขวงทางหลวงชนบทนครศรีธรรมราช ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมระดมกำลังเจ้าหน้าที่ เครื่องมือ เครื่องจักร และอุปกรณ์อำนวยความปลอดภัยติดตั้งบนสายทางหลวงชนบทที่ได้รับผลกระทบ

นายมนตรี กล่าวต่อว่า ทั้งนี้สายทางที่ได้รับผลกระทบหนัก ถนน/สะพานขาดชำรุด ดินโคลนสไลด์ปิดทับเส้นทาง ให้ดำเนินการจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังตลอด 24 ชม. พร้อมติดตั้งป้ายเตือน สัญญาณไฟ และอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อแจ้งเตือนให้กับประชาชนผู้ใช้เส้นทางได้รับทราบและหลีกเลี่ยงเส้นทางดังกล่าว รวมถึงช่วยลดอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นกับประชาชนได้ สำหรับสายทางหลวงชนบทในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ปัจจุบันที่ได้รับผลกระทบสัญจรผ่านไม่ได้มี 7 แห่ง อาทิ ถนนสาย นศ.3109 แยก ทล.403–ถนนเทวบุรี อำเภอพระพรหม, เมือง (ช่วง กม.ที่ 5+850 ถึง 7+450) และถนนสาย นศ.3114 แยก ทล.403–บ้านบางเตย อำเภอเมือง (ช่วง กม.ที่ 2+300 ถึง 3+030)

ขณะที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ทล. แจ้งว่า ทางหลวงถูกน้ำท่วมในพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดนครศรีธรรมราช และจังหวัดพัทลุง (20 สายทาง จำนวน 31 แห่ง) โดยจังหวัดนครศรีธรรมราช การจราจรผ่านไม่ได้จำนวน 7 แห่ง อาทิ ทล.403 สายนครศรีธรรมราช-เสาธง ช่วง กม.ที่ 10+600-11+200 อ.พระพรหม ระดับน้ำสูง 100 ซม., ทล.403 สายนครศรีธรรมราช-เสาธง ช่วง กม.ที่ 0+300-23+500 อ.พระพรหม ระดับน้ำสูง 100 ซม., ทล.401 สายสิชล-ท่าแพ ช่วง กม.ที่ 268+000 อ.สิชล ระดับน้ำสูง 70 ซม. และ ทล.401 สายสิชล-ท่าแพ ช่วง กม.ที่ 265+600-266+100 อ.ท่าศาลา ระดับน้ำสูง 80 ซม.                                                 

ด้านฝ่ายประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) แจ้งว่า ตั้งแต่วันที่ 17 ธ.ค. 67 รฟท. งดเดินขบวนรถและปรับเปลี่ยนสถานีต้นทาง–ปลายทาง เส้นทางนครศรีธรรมราช จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง ประกอบด้วย งดเดินขบวนรถ 1 ขบวน ได้แก่ ขบวนรถท้องถิ่นที่ 451 นครศรีธรรมราช–สุไหงโก-ลก และปรับเปลี่ยนสถานีต้นทาง–ปลายทาง 5 ขบวน ได้แก่ ขบวนรถด่วนที่ 85/86 กรุงเทพอภิวัฒน์-นครศรีธรรมราช–กรุงเทพอภิวัฒน์  ปรับเปลี่ยนเป็น กรุงเทพอภิวัฒน์–ชุมทางทุ่งสง-กรุงเทพอภิวัฒน์

ขบวนรถท้องถิ่นที่ 452 สุไหงโก-ลก–นครศรีธรรมราช ปรับเปลี่ยนเป็น สุไหงโก-ลก-ชุมทางหาดใหญ่, ขบวนรถท้องถิ่นที่ 455 นครศรีธรรมราช–ยะลา ปรับเปลี่ยนเป็น ชุมทางเขาชุมทอง–ยะลา และขบวนรถท้องถิ่นที่ 456 ยะลา-นครศรีธรรมราช ปรับเปลี่ยนเป็น ชุมทางหาดใหญ่-ชุมทางเขาชุมทอง ทั้งนี้ ผู้โดยสารที่มีตั๋วเดินทางในเส้นทางที่ได้รับผลกระทบ หากไม่ประสงค์เดินทาง สามารถติดต่อขอคืนเงินค่าตั๋วโดยสารได้ที่สถานีรถไฟทุกแห่งทั่วประเทศ หรือติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการข้อมูลลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง.