เมื่อวันที่ 28 ต.ค. ที่สถานีเรือสมุย ฐานทัพเรือสงขลา ทัพเรือภาคที่ 2 อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี พล.ร.ท.สุนทร คำคล้าย ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 2 ในฐานะ ผอ.ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 2 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่สุราษฎร์ธานี สาขาเกาะสมุย สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสุราษฎร์ธานี ด่านศุลกากรเกาะสมุย และตำรวจน้ำเกาะสมุย ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมเรือประมงดัดแปลงขนถ่ายน้ำมันไม่ผ่านพิธีการทางศุลกากร

พล.ร.ท.สุนทร เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 2 ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวในพื้นที่พบเรือประมงต้องสงสัยจำนวน 1 ลำ บริเวณห่างจากปากร่องน้ำท่าศาลา ประมาณ 2 ไมล์ทะเล จึงสั่งการให้เรือ ต.235 เข้าทำการตรวจสอบพบว่า ตัวเรือมีลักษณะเป็นเรือประมงดัดแปลง ชื่อ ออโชคสิริลดา ยาว 22.40 เมตร กว้าง 6.33 เมตร ขนาด 78.56 ตันกรอส หมายเลขทะเบียนเรือ 390900235 พร้อมลูกเรือ 5 คน ทั้งหมดสัญชาติไทย ในระวางตรวจพบถังใส่น้ำมันดีเซล 35,000 ลิตร

พล.ร.ท.สุนทร กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบเอกสารประจำเรือพบว่า ใบอนุญาตใช้เรือกับชื่อเรือไม่ตรงกับเอกสารและประเภทการใช้เรือ และไม่มีใบอนุญาตขนถ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง จึงได้ควบคุมเรือและลูกเรือเพื่อดำเนินการสอบสวนก่อนดำเนินคดีตามกฎหมาย ทั้งนี้จากราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น คาดว่าจะมีกลุ่มลักลอบนำน้ำมันเข้าจากต่างประเทศส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งลักลอบน้ำมันค้าภายในประเทศที่ไม่ผ่านพิธีการศุลกากรมาจำหน่าย

จากการสอบสวนนายเสนาะ (ขอสงวนนามสกุล) ผู้ควบคุมเรือ ให้การรับสารภาพว่า ไปรับน้ำมันมาจากแนวชายแดนเขตติดต่อกับประเทศกัมพูชา และเวียดนาม และนำมาส่งที่ อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช วิ่งบรรทุกน้ำมันมาแล้ว 12 เที่ยว ได้รับค่าจ้างเดือนละ 30,000 บาท เพิ่งถูกจับกุมเป็นครั้งแรก และก่อนหน้านี้เคยเป็นไต๋เรือประมง แต่ตกงานมาได้ 8 เดือน ไม่มีทางไป จึงต้องมาทำแบบนี้ ตั้งแต่ขับเรือมาไม่เคยเจอหน้าเจ้าของเรือเลยและไม่รู้ว่าเป็นใคร จะเจอแต่นายหน้าที่ติดต่อมาเท่านั้น

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ดำเนินคดีกับนายเสนาะ กับลูกเรือรวม 5 คน ในความผิดตาม พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 พ.ร.บ.เรือไทย พ.ศ. 2456 พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560 นำตัวส่งพนักงานสอบนวนดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนข้อกล่าวหาเพิ่มเติมจะทำการสอบสวนขยายผลโดยละเอียดต่อไป.