เมื่อไม่นานมานี้ มีผลงานวิจัยใหม่ที่ระบุถึงปัจจัยเสี่ยงซึ่งอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ตรวจพบว่า กลุ่มคนหนุ่มสาวยุคปัจจุบันกำลังป่วยเป็นโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่มากขึ้นเรื่อย ๆ
โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนักกำลังเพิ่มขึ้นในกลุ่มคนหนุ่มสาวชาวอเมริกัน โดยคาดว่าจะตรวจพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นถึง 90 เปอร์เซ็นต์ภายในปี 2573 ในกลุ่มคนวัย 20 และ 30 ปี
แม้ว่าการรับประทานอาหารที่ไม่ถูกหลักโภชนาการและการมีน้ำหนักตัวเกินมาตรฐานจะเป็นสาเหตุของโรคนี้ได้ แต่ก็ไม่สามารถอธิบายได้ว่า เหตุใดจึงมีจำนวนผู้ป่วยในกลุ่มคนที่ดูเหมือนจะแข็งแรงและมีสุขภาพดีเพิ่มขึ้นด้วย
ในผลการศึกษาวิจัยใหม่มากกว่า 160 ฉบับชี้ให้เห็นว่า ยาฆ่าแมลงที่ปนเปื้อนในอาหาร สารพิษในน้ำดื่ม และมลพิษทางอากาศอาจเป็นสาเหตุของโรคมะเร็งได้ และเป็นไปได้ว่าจะเป็นสาเหตุที่พบผู้ป่วยโรคมะเร็งที่ยังมีอายุน้อยมากขึ้น โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา
ผลการวิจัยล่าสุดชี้ว่า การมีปฏิกิริยาต่อกันที่ซับซ้อนของปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้กลายเป็นตัวการเปลี่ยนแปลงแบคทีเรียที่อยู่ในลำไส้ของคน ซึ่งนำไปสู่การติดเชื้อและอักเสบเรื้อรัง ส่งผลให้เซลล์ที่แข็งแรงตายไป ขณะที่เซลล์มะเร็งกลับเติบโตขึ้น
นอกจากนี้ งานวิจัยยังเสนอนแนะว่า การพบผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่ในกลุ่มคนอายุน้อย (ต่ำกว่า 50 ปี) ซึ่งเรียกว่า EOCRC (Early-onset colorectal cancer) เพิ่มขึ้นนั้น เกิดขึ้นมานานแล้ว เนื่องมาจากการสัมผัสมลพิษที่เพิ่มขึ้น ซึ่งสามารถสืบย้อนไปได้ถึงยุคปีค.ศ. 1950
นักวิจัยที่เผยแพร่ผลงานในวารสาร Heliyon เขียนว่า “ด้วยเหตุนี้ จึงมีความจำเป็นอย่างเร่งด่วนที่จะต้องมีนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดยิ่งขึ้น เพื่อลดการสัมผัสมลพิษ ปกป้องสุขภาพของประชาชน และลดภาระโรค EOCRC”
ทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยสุลต่านกาบูสแห่งโอมานยังกล่าวอีกว่า สุขภาพของระบบทางเดินอาหารมนุษย์นั้นขึ้นอยู่กับไมโครไบโอมในลำไส้ ซึ่งเป็นกลุ่มแบคทีเรียที่ควบคุมระบบย่อยอาหารและระบบภูมิคุ้มกัน
การสัมผัสกับสิ่งต่างๆ เช่น อาหาร ยาปฏิชีวนะ และสารเคมีเป็นเวลานานอาจทำให้ระบบนี้เปลี่ยนแปลงไป อยู่ในสถานะที่ “ไม่เสถียร” โดยมีแบคทีเรียอันตรายเข้ามาแทนที่แบคทีเรียที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย
นักวิจัยยังตั้งข้อสังเกตถึงการบริโภคน้ำที่ปนเปื้อนโลหะหนัก เช่น ตะกั่วและสารหนู ที่มีมานานแล้ว โดยมีการประเมินว่า ในสหรัฐยังคงใช้ท่อส่งน้ำที่ทำด้วยตะกั่ว 9 ล้านชิ้นทั่วประเทศ
นอกจากนี้ ทีมวิจัยยังพยายามหาข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้น โดยพิจารณาถึงการสัมผัสต่อสิ่งแวดล้อมในกลุ่มผู้ที่เกิดหลังปีค.ศ. 1950 พวกเขาเน้นไปที่กลุ่มอนุภาคขนาดเล็กที่จมูกและปอดไม่สามารถกรองออกได้ ซึ่งเรียกว่า PM2.5
อนุภาคเหล่านี้ถูกปล่อยออกมาสู่บรรยากาศโดยตรงจากแหล่งต่าง ๆ เช่น เชื้อเพลิงฟอสซิลที่เผาไหม้จากโรงงาน, รถยนต์ที่ใช้นำ้มันเบนซิน และสามารถเดินทางไปสู่กระแสเลือดได้ง่าย ทำให้เกิดการอักเสบ
ทีมวิจัยอ้างว่า PM2.5 นี้เองที่ไปกระตุ้นให้เกิดการอักเสบในลำไส้ใหญ่ ซึ่งได้รับการพิสูจน์แล้วว่าทำให้เกิดการพัฒนาของเซลล์มะเร็งและส่งผลกระทบต่อความสามารถของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายในการต่อสู้กับเซลล์มะเร็ง
ที่มา : ladbible.com
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES