น.ส.ธีรณี อจลากุล ผู้อำนวยการสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (บีดีไอ) เปิดเผยว่า ปี 68 ได้ดำเนินการจัดทำแผนยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนการใช้ประโยชน์จากข้อมูลขนาดใหญ่ (บิ๊ก ดาต้า) พ.ศ. 2568-2570 เพื่อวางแนวทางการพัฒนาและใช้ประโยชน์จากข้อมูลขนาดใหญ่ของประเทศไทย สำหรับประกอบการตัดสินใจเชิงนโยบายและเชิงธุรกิจ รวมไปถึงยกระดับการดำเนินชีวิตของประชาชนให้เข้ากับยุคดิจิทัล โดยตอนนี้อยู่ในขั้นตอนนำเสนอการพิจารณาแก่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)
สำหรับ (ร่าง) แผนยุทธศาสตร์ฯ ดังกล่าวประกอบด้วยทั้งสิ้น 4 ยุทธศาสตร์ ได้แก่ 1. พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการใช้ประโยชน์จากข้อมูลขนาดใหญ่ 2.ส่งเสริมการใช้ประโยชน์โครงสร้างพื้นฐานเพื่อตอบโจทย์ประเด็นการพัฒนาสำคัญของประเทศ 3. พัฒนาและใช้ประโยชน์จาก เอไอ ในการบริการ และ 4. พัฒนาสร้างขีดความสามารถด้านข้อมูลและปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งทั้ง 4 ยุทธศาสตร์จะช่วยขับเคลื่อนการใช้ประโยชน์จากข้อมูลขนาดใหญ่ไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจและสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ประชาชนอย่างครอบคลุม ตามวิสัยทัศน์ของแผนฯ
น.ส.ธีรณี กล่าวต่อว่า สำหรับการดำเนินงานในปี 68 ยังคงเดินหน้าผลักดันให้เกิดการพัฒนาและขยายผลการใช้งานแพลตฟอร์มอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นโครงการแพลตฟอร์มข้อมูลสุขภาพทั่วประเทศ (เฮลท์ลิงค์) มุ่งเน้นการขยายเครือข่ายเชื่อมโยงระบบข้อมูลกระทรวงสาธารณสุข โครงการแพลตฟอร์มบริการข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อมสำหรับพื้นที่เมืองอัจฉริยะ (เอ็นวี่ ลิงค์) เร่งเชื่อมโยงและบูรณาการข้อมูลจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น โครงการแพลตฟอร์มข้อมูลอัจฉริยะด้านท่องเที่ยวแห่งชาติ (ทราเวล ลิงค์) ขยายการดำเนินงานระยะที่ 2 ไปยังพื้นที่ท่องเที่ยวหลักเพิ่มขึ้น และโครงการขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะด้วยการเชื่อมโยงข้อมูลเมือง (ซีดีพี-สมาร์ท ดาต้า อนาเลติกส์ แพลตฟอร์ม) สร้างแพลตฟอร์มข้อมูลเมืองอัจฉริยะตามลักษณะเฉพาะของพื้นที่เพิ่มขึ้นอย่างน้อย 5 พื้นที่ ได้แก่ น่าน อุตรดิตถ์ อุบลราชธานี สงขลาและนครศรีธรรมราช
“นอกจากนี้ในปี 68-69 บีดีไอจะพัฒนาแพลตฟอร์มบิ๊กดาต้าแห่งชาติ หรือ เนชั่นแนล บิ๊ก ดาต้า แพลตฟอร์ม ด้วยงบประมาณ จำนวน 100 ล้านบาท เพื่อเชื่อมโยงฐานข้อมูลภาครัฐและเอกชน กว่า 300 ชุด เพื่อให้สามารถนำข้อมูลของประเทศไปใช้ประโยชน์ในด้านต่างๆ ได้ โดยวางเป้าหมายช่วยสร้างมูลค่าผลกระทบทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมจากการบูรณาการการใช้ประโยชน์ด้านข้อมูลขนาดใหญ่และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกว่า 1,000 ล้านบาท และเพิ่มโอกาสการจ้างงานบุคลากรด้านข้อมูลกว่า 10,000 ราย” น.ส.ธีรณี กล่าว