อาชญากรรมที่ผ่านมาเลวร้ายแค่ไหน และจะ “เอาตัวรอด” อย่างไรจากภัยนี้ “ทีมข่าวอาชญากรรม” สอบถามกับ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. ซึ่งเริ่มจากการเผยให้เห็นสถานการณ์ผ่านสถิติรับแจ้งความออนไลน์ตลอดทั้งปี 67 มีมากกว่า 320,000 เคสไอดี ถือเป็นสถิติสูง แม้เทียบกับที่ผ่านมาถือว่าลดลง แต่ก็ยังส่งผลกระทบวงกว้าง
พร้อมเปรียบ “อาชญากรรมออนไลน์” เหมือนยุงที่กระทบประชาชนทุกครัวเรือน ไม่ตัวเองเป็นผู้เสียหายโดยตรงก็มักมีญาติพี่น้องตกเป็นผู้เสียหาย ดังนั้น ทำอย่างไรจะ “ลด” ภัยอาชญากรรมออนไลน์ได้ เป็นโจทย์ที่ให้ความสำคัญมาก
ในส่วนตำรวจแยกอาชญากรรมออนไลน์ตามแผนประทุษกรรมไว้ 14 ประเภท ความผิดที่พบมากสุดคือ การหลอกขายสินค้า ซึ่งมีทั้งสั่งสินค้าแล้วไม่ได้รับ, สินค้าไม่ตรงปก, สินค้าไม่ได้คุณภาพ เป็นต้น รองมาคือ การหลอกลงทุน, หลอกให้โอนเงิน มีทั้งข่มขู่ให้กลัว เช่น กรณี “ชาล็อต ออสติน” หรือหลอกให้รักและชวนมาลงทุนประเภทโรแมนซ์สแกม กระทั่งหลอกให้ลงทุน แลกรับผลตอบแทนสูง
แชร์เทคนิค “ย้อนวัย” คำสอนเด็ก
การตระหนักถึงภัย ย้ำว่าเป็นสิ่งที่พยายามวางมาตรการให้รู้เท่าทัน โดยย้อนไปช่วงวัยเด็ก เหมือนสอนเด็กว่าอย่าพูดคุยกับคนแปลกหน้า, อย่ารับสิ่งของจากคนแปลกหน้า, อย่าทานอาหารจากคนแปลกหน้า แม้จะอ้างเป็นคนรู้จักแต่หากไม่เคยบันทึกเบอร์ไว้เลย จู่ๆโทรศัพท์มาหาก็ควรหลีกเลี่ยง และให้สงสัยไว้ก่อน
เพราะปัจจุบันคนร้ายใช้อุบายลักษณะนี้กันมาก และเมื่อถูกจับทางได้ก็มักปรับแผน แต่หลักการคงเดิมคือ ทำให้เชื่อใจและโอนเงิน ดังนั้น ต้องคิดเสมอว่า “ไม่เชื่อ ไม่รีบ ไม่โอน”
“เราต้องบอกตัวเองและญาติพี่น้องว่า อย่าคุยกับคนแปลกหน้า ซึ่งคนแปลกหน้าในที่นี้คือ คนที่เราไม่รู้จัก ไม่เคยมีเบอร์โทรศัพท์บันทึกไว้ หรือ แอดไลน์พูดคุยกันแบบตัวต่อตัว ถ้าไม่ใช่คนกลุ่มนี้อย่าคุย”
เสียหายง่าย “ล่า” ตัวยาก โอกาสคืนริบหรี่
ในฐานะผู้นำหน่วย พล.ต.ท.ไตรรงค์ ยอมรับข้อกังวลความสูญเสียโดยเฉพาะการโอนเงินที่มีมูลค่าสูงมาก ต่างจากอาชญากรรมในอดีตอย่างการลัก วิ่ง ชิง ปล้น ที่มีเพียงความเสียหายจากทรัพย์ที่อยู่ตรงหน้า แต่อาชญากรรมออนไลน์จะเห็นว่าหลายคนหมดตัว ซ้ำต้องไปกู้หนี้ยืมสิน จากการหลงเชื่อ
ขณะที่การจับกุมไม่ง่าย ด้วยขบวนการส่วนใหญ่ตั้งฐานนอกประเทศ ยากจะติดตาม ประกอบกับนวัตกรรมทางการเงินปัจจุบันไม่ได้อยู่แค่ในประเทศหรือการดูแลของสถาบันการเงินภายในประเทศเท่านั้น แต่ยังมีเงินดิจิทัล คริปโตเคอร์เรนซี
ที่ผ่านมาตนมีโอกาสพูดคุยกับอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย ในประเด็นความร่วมมือป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี รวมทั้งขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยเฉพาะการตั้งสแกมเซ็นเตอร์ หรือศูนย์หลอกลวงอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งรัฐบาลจีนมีกลไกประชุมระดับภูมิภาค หรืออนุภูมิภาค แหลมอินโดจีน ประกอบกับจีนเองให้ความสำคัญกับภัยดังกล่าวจึงจะมีการกำหนดเป็นประเด็นแทรกหารือไปด้วย และเชิญตำรวจไซเบอร์ในฐานะผู้สังเกตการณ์ร่วม คาดจะเพิ่มความร่วมมือขึ้นอีกทาง
“จากสถิติแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนก็ถูกหลอกเสียหายมากกว่า เพราะประชากรเยอะกว่า ประเทศไทยรองลงมา กลุ่มนี้มีทั้งไทยและต่างชาติ หรืออาจเป็นชาวจีนมาร่วมกันกระทำความผิด ตามรูปแบบทำงานของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ฉะนั้นเชื่อว่าความร่วมมือครั้งนี้จะเป็นการยกระดับ และเห็นผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว”
กฎหมายด้อย ปัญหาทุกประเทศ
พล.ต.ท.ไตรรงค์ ชี้ความจำเป็นต้องยกระดับการดูแลเงินดิจิทัล และคริปโตเคอร์เรนซี หลังยังไม่มีกฎหมายและหน่วยงานควบคุมดูแล มีเพียงบริษัทที่ซื้อขายแลกเปลี่ยนภายใต้การกำกับของ ก.ล.ต. การไม่มีกฎหมายและหน่วยงานเจ้าภาพ ทำให้ไร้เครื่องมือติดตาม ยอมรับเรื่องนี้เป็นจุดด้อยทุกประเทศทั่วโลก เพราะอาชญากรรมออนไลน์ หรือสแกมเซ็นเตอร์ ก่อปัญหาทุกประเทศ แม้แต่ประเทศที่ไม่มีสถิติการก่ออาชญากรรมสูงก็ยังโดนเหมือนกัน
“ปัญหาขณะนี้คือกฎหมายภายในประเทศปรับตัวไม่ทันบริบทสังคมที่เปลี่ยนไวมาก โดยเฉพาะอาชญากรออนไลน์ และการนำเงินที่ได้จากการก่ออาชญากรรมไปแปรรูป ตอนนี้กฎหมายจึงจำเป็นต้องปรับทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ”
ศึกษาเขา เรา(อาจ)ไม่โดนหลอก
การตื่นตัว และกลัวภัยเป็นเรื่องที่ต้องทำต่อเนื่อง เพราะความรู้ทันเท่านั้นจึงไม่ตกเป็นเหยื่อ นอกเหนือนำเสนอข่าวคราวภัยออนไลน์เพื่อให้ประชาชนรับทราบรูปแบบต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น การรู้จักใช้งานแอปพลิเคชัน Cyber check ที่สามารถตรวจสอบ คัดกรองข้อมูลเบอร์โทรศัพท์ เลขบัญชี และลิงก์ต่าง ๆ ได้ เป็นสิ่งที่ประชาชนควรรู้ให้มากที่สุด
แต่หากเกิดคดีขึ้นแล้วสิ่งสำคัญที่พยายามกำชับคือ การจัดการคดีอาชญากรรมออนไลน์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยให้ผู้บังคับบัญชาเป็นคนติดตาม ดูแล ให้คำแนะนำ ตลอดจนรับฟังปัญหาข้อขัดข้อง
ทั้งนี้ หากพบปัญหาไม่สามารถแก้ไขได้ในระดับกองกำกับการให้เสนอข้อขัดข้อง พร้อมข้อเสนอแนะ รายงานตามลำดับชั้นเพื่อแก้ปัญหาคดีค้างเก่า เคสไอดีค้างเก่า และหาแนวทางแก้ไขร่วมกัน
นอกจากนี้ ได้ให้ผู้บังคับบัญชาจัดการบริหารคดี และเคสไอดี ให้กับพนักงานสอบสวนทุกนายมีปริมาณงานใกล้เคียงกันโดยคาดหวังจากสถิติคดีที่ทำมาตลอดปี 67 การทำงานทุกมิติ การติดตามจับกุมคนร้ายอย่างเป็นระบบ จะลดการก่ออาชญากรรมทางเทคโนโลยีได้บ้าง
สายตรวจไซเบอร์ ตระเวนส่องมิจ(ฉาชีพ)
จากแผนงานเชิงรุก พล.ต.ท.ไตรรงค์ ระบุ มีการจัดตั้งสายตรวจไซเบอร์คอยออกลาดตระเวน สอดส่องเว็บไซต์ต่าง ๆ เพื่อจับสัญญาณ และการเกิดขึ้นของเว็บไซต์ใหม่ ๆ หากพบพิรุธจะประสานข้อมูลกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเพื่อดำเนินการบล็อกตามขั้นตอน
พร้อมเผยภายหลังมี พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2566 มีการจัดตั้งคณะทำงานและติดตามงานกันรายเดือน ปัจจุบันมีความคืบหน้า ยกตัวอย่าง การขึ้นบัญชีที่มีความเสี่ยงในการทำธุรกรรม และมีการอายัดบัญชีเหล่านี้ไปกว่า 60,000 บัญชี ถือเป็นการป้องกันประชาชนในการโอนเงิน และหยุดทำธุรกรรมชั่วคราว ลดความเสียหายได้ระดับหนึ่ง
ภัยออนไลน์ประชิดมือ(ถือ)ทุกคน ไม่ใช่คำขู่เกินจริง บทบาทสกัดกั้นแม้เป็นความรับผิดชอบหน่วยงาน แต่ด่านแรกรับสาย มีโอกาสหยุดความเสียหาย เพียงไม่รับ…สายแปลก ไม่รีบ…โอนไว.
ทีมข่าวอาชญากรรม รายงาน