จากกรณีพระลุน สุ่มมาตย์ อายุ 72 ปี พระวัดป่าภูปอ ต.นาตาล อ.ท่าคันโท จ.กาฬสินธุ์ ถูกฆ่าโหดมรณภาพบริเวณบันไดลานหินทางลงกุฏิภายในวัด บริเวณศีรษะ ใบหน้า แขน และข้อมือถูกของมีคมฟัน 27 แผล เมื่อช่วงเช้าวันที่ 29 ต.ค.ที่ผ่านมา สอบสวนพระลูกวัดรูปหนึ่งอ้างว่า เห็นชาย 2 คนเข้ามาทวงหนี้กับพระลุน 3 หมื่นบาท แต่กลับพบพิรุธน่าสงสัย หลังจากพบคราบเลือดติดอยู่ที่ย่ามสะพาย และเอกสารของพระรูปดังกล่าว สุดท้ายยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุ เพราะความแค้นที่ถูกด่าเรื่องขอแบ่งข้าวที่บิณฑบาตมาได้หลายครั้ง ตามข่าวที่นำเสนอไปแล้วนั้น

สารภาพแล้ว! หลวงตาวัย72ฆ่าโหดพระร่วมวัด แฉแค้นฝังใจจัดถูกด่าขอแบ่งข้าว
เบาะแสคราบเลือดติดจีวร-ย่าม ส่งพิสูจน์มัดมือฆ่าโหดพระวัดป่า

ความคืบหน้า เมื่อช่วงเย็นวันที่ 31 ต.ค. ที่ผ่านมา พล.ต.ต.วรวัฒน์ มะลิ รรท.ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ นายพลานุภาพ ธพรคำแพทย์ นายอำเภอท่าคันโทพร้อมกำลังชุดสืบสวน สภ.ท่าคันโท ชุดสืบสวน บก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ และชุดสืบสวน บช.ภ.4 และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองคุมตัวอดีตพระกรกช หรือนายกรกช เสนาฤทธิ์ อายุ 72 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ที่ จ232 /2564 ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา โดยไตร่ตรองไว้ก่อน ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุภายในวัดป่าภูปอ หลังจากรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือฆ่าพระลุน โดยก่อนคุมตัวพาไปทำแผนเจ้าหน้าที่ได้นิมนต์พระสังฆาธิการมาทำการลาสิกขาก่อน ท่ามกลางชาวบ้านที่มาดูเหตุการณ์จำนวนมาก และกำลังตำรวจและฝ่ายปกครองกว่า 50 นาย

โดยจุดแรกเจ้าหน้าที่คุมตัวไปชี้จุดบริเวณหน้าห้องน้ำห่างจากกุฏิพระลุนที่เสียชีวิต 20 เมตร ช่วงเวลา 05.00 น.วันที่เกิดเหตุ ผู้ต้องหาได้เดินถือมีดอีโต้เข้าไปฟันที่บริเวณท้ายทอยพระลุน ซึ่งกำลังซักจีวร 2 ครั้ง ก่อนที่พระลุนจะวิ่งหนี พยายามหลบเข้าไปในกุฎิของตนเอง แต่เข้าไม่ได้เพราะก่อนที่จะไปซักจีวรได้คล้องกุญแจไว้ จากนั้นพระลุนได้พยามวิ่งหนีไปและตะโกนขอความช่วยเหลือ พระกรกช ตามมาทันที่บริเวณทางขึ้นบันไดลานหิน จึงใช้มีดอีโต้ฟันที่ศีรษะซ้ำอีก 2-3 ครั้ง พระลุนก็ยังพยามหนีจนมาถึงขั้นบันไดจุดที่พบศพ แต่อดีตพระกรกชก็ยังตามาฟันซ้ำไปอีกหลายครั้ง จากนั้นนำมีดอีโต้ไปทิ้งไว้หลังโขดหินแล้วนำจอบมาสับไปที่ศีรษะซ้ำอีก 3-4 ครั้ง และใช้บริเวณสันจอบตีซ้ำอีก 2 ครั้งจนกะโหลกยุบและแน่นิ่งไป

จากนั้นอดีตพระกรกชได้เดินไปที่กฏิของตนเอง นำกุญแจมาล็อกคล้องหน้าประตูไว้ เพื่อหลอกว่าถูกคนร้ายที่เป็นชายสองคนมาทวงเงินกับพระลุนล็อกไว้จึงออกมาไม่ได้ จากนั้นได้นำขวดเหล้าขาวเปล่า 2 ขวดที่เก็บมาจากสวนยางของชาวบ้านขณะออกไปบิณฑบาต และนำขวดเหล้าขาวที่ซื้อมาจากร้านในตัวอำเภอท่าคันโทมาวางไว้บนแคร่ไม้หน้ากุฏิพระลุน และหน้ากุฏิของตนเอง เพื่อจัดฉากว่ามีชายสองคนมาทวงเงินกับพระลุนแล้วมีการนั่งดื่มเหล้ากันก่อนที่จะทำร้ายกันและกลายเป็นศพ ทั้งนี้ในส่วนบริเวณจุดที่นำมีดอีโต้และจอบไปทิ้งนั้น เจ้าหน้าที่ไม่สามารถนำตัวไปชี้จุดได้ เนื่องจากมีชาวบ้านหลายร้อยคนมามุงดูเหตุการณ์ จึงเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย ก่อนคุมตัวกลับไปที่โรงพัก

พล.ต.ต.วรวัฒน์ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่อย่างต่อเนื่องรวบรวมพยานหลักฐานและสอบสวนผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า มีความโกรธแค้นผู้ตายอย่างมาก อ้างว่าผู้ตายมักต่อว่าและพูดจาถากถางต่อหน้าญาติโยมที่มาทำบุญ โดยเฉพาะเรื่องการแบ่งอาหารจากการบิณฑบาต พูดเสียดสีว่าตนเองไม่ได้ออกบิณฑบาต แต่กลับแบ่งเอาอาหารไปมากกว่าคนบิณฑบาต จนมีปากเสียงทะเลาะกันบ่อยครั้ง นอกจากนี้ผู้ต้องหายังอ้างอีกว่าเคยถูกพระลุนดุด่าหยาบคายหลายครั้ง จึงเก็บความแค้นไว้ในใจเรื่อยมา

พล.ต.ต.วรวัฒน์ กล่าวต่อว่า ก่อนที่ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาจึงคิดวางแผน โดยเริ่มจากการเก็บขวดเหล้าเปล่า และซื้อเหล้า จัดเตรียมมีดเตรียมเพื่อที่จะก่อเหตุ โดยอาศัยจังหวัดเช้ามืด ขณะที่พระลุนกำลังซักจีวร เพื่อเตรียมตัวที่จะกลับไปเยี่ยมบ้านหลังจากออกพรรษา พร้อมเตรียมคำให้การไว้บอกเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า มีชาย 2 คนมาทวงหนี้พระลุนและลงมือฆ่าจนเสียชีวิต อย่างไรก็ตามหลังจากทำแผน เจ้าหน้าที่ได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าคันโท ดำเนินคดีต่อไป.