สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงโบโกตา ประเทศโคลอมเบีย เมื่อวันที่ 20 ม.ค. ว่า กองทัพโคลอมเบียส่งทหารประมาณ 5,000 นายไปยังภูมิภาคคาตาตัมโบ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ซึ่งเป็นแหล่งปลูกโคเคนที่สำคัญ และกำลังเป็นศูนย์กลางของสงครามกลางเมือง หลังกลุ่มติดอาวุธกองทัพปลดปล่อยแห่งชาติ (อีแอลเอ็น) เปิดฉากโจมตีกองกำลังฝ่ายตรงข้าม ซึ่งประกอบด้วยอดีตสมาชิกกองกำลังติดอาวุธปฏิวัติโคลอมเบีย (ฟาร์ก) ที่ปลดอาวุธไปเมื่อปี 2560

นายวิลเลียม วิลลามิซาร์ ผู้ว่าการเขตนอร์เต เด ซันตันเดร์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของภูมิภาคคาตาตัมโบ เปิดเผยเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจากความรุนแรงครั้งนี้ อาจมากกว่า 80 ราย

ประชาชนหลายร้อยคนหลบภัยในเมืองทิบู ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ ที่ซึ่งมีศูนย์พักพิงหลายแห่งตั้งอยู่ ขณะที่ประชาชนอีกจำนวนไม่น้อย ข้ามชายแดนไปยังเวเนซุเอลา หลังรัฐบาลการากัสประกาศ “ปฏิบัติการพิเศษ” เพื่อช่วยเหลือพลเรือนพลัดถิ่นจากโคลอมเบีย

วิลลามิซาร์ ระบุด้วยว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายสิบราย และมีผู้พลัดถิ่นประมาณ 5,000 คน จากเหตุรุนแรงครั้งนี้ โดยจำนวนผู้เสียชีวิตสูงกว่าที่ทางการรายงานเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ถึง 20 ราย ซึ่งรวมถึงสมาชิกกลุ่มฟาร์ก 7 ราย

สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินโคลอมเบีย ซึ่งเป็นหน่วยงานตรวจสอบด้านสิทธิมนุษยชนด้วย อ้างถึงรายงานที่ว่า กลุ่มกบฏอีแอลเอ็นบุกเข้าไปตามบ้านเรือนต่าง ๆ และสังหารประชาชนซึ่งต้องสงสัยว่า มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มฟาร์ก

ขณะเดียวกัน พล.ต.ลุยส์ เอมีลิโอ การ์โดโซ ผู้บัญชาการกองทัพบกโคลอมเบีย เปิดเผยว่า ทหารเปิดฐานทัพให้ประชาชนใช้ลี้ภัย รวมถึงส่งอาหารไปยังพื้นที่ขัดแย้งด้วย

อนึ่ง กลุ่มอีแอลเอ็นและฟาร์ก เป็นกองกำลังกึ่งทหาร ซึ่งมีจุดยืนทางการเมืองนิยมฝ่ายซ้าย และเกี่ยวข้องกับกลุ่มค้ายาเสพติด ทั้งสองกลุ่มพยายามแย่งชิงทรัพยากร และเส้นทางการค้าในภูมิภาคสำคัญของโคลอมเบีย.

เครดิตภาพ : AFP