เมื่อวันที่ 29 ม.ค. พ.ต.อ.พรทวี สมวงค์ ผกก.สน.หัวหมาก พร้อมด้วย พ.ต.ต.สีหเดช ศกลกันต์ สวป.สน.หัวหมาก นำกำลังฝ่ายป้องกันปราบปราม สน.หัวหมาก เข้าจับกุมตัว ชายไทย อายุ 46 ปี พร้อมตรวจยึดอาวุธปืนแม็กกาซีน แบบออโตเมติก รวม 5 กระบอก ที่ใช้อาวุธปืนก่อเหตุทำร้ายร่างกายและข่มขู่ นายอุทิตย์ หนูแดง อายุ 46 ปี อาชีพไรเดอร์ จนได้รับบาดเจ็บ ขณะเข้าไปรับออเดอร์พัสดุในบ้านหลังหนึ่ง พระราม 9 ซอย 35 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม.
จากการสอบถาม นายอุทิตย์ ผู้เสียหาย เล่าว่า ผู้ก่อเหตุยิงปืน 1 นัดบริเวณประตูบ้าน ก่อนจะเอาปืนมาจ่อหัวตนเองและตบหัวหลายครั้ง จากนั้นลากตนไปเตะ จนต้องกราบขอร้องชีวิต ตนพยายามบอกว่ามารับออเดอร์ แต่ผู้ก่อเหตุก็ไม่ฟังอะไรเลย ยังเตะตนต่อเนื่อง เรียกง่ายๆ ซ้อมเหมือนหมา ตนกราบเท้าเขาถึง 20 ครั้ง เขายังไม่ยอมปล่อย พอกราบ ก็เตะยอดหน้า แล้วถีบ กระทืบ วนอยู่อย่างนี้ สุดท้ายเขาเอาปืนออกมาวางโชว์ 5 กระบอก แล้วยังหักแขน ล็อกคอ คล้ายจะเอาชีวิตตนให้ได้ สิ่งที่ทำให้รู้สึกกลัวมากที่สุด ตอนเขาบอกว่า “กูจะหมกมึงเหมือนหมาข้างบ้านนี้เลย”
“ตนไม่ทราบว่าไปทำอะไรให้เขา จนโดนทำร้ายขนาดนี้ และเขายังกล่าวหาว่าตนเป็นสายลับ ซึ่งคนที่เรียกไปรับพัสดุน่าจะเป็นภรรยาเขา แล้วเอาปืนมาตบและซ้อมตน จนสุดท้ายตำรวจต้องตามเข้าไปช่วยตนรอดมาได้” ผู้เสียหายกล่าวด้วยความกลัว
ด้าน พ.ต.อ.พรทวี กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุว่า พบเห็นชายคล้ายแขกขาว กำลังกระชากไรเดอร์เข้าไปในบ้าน จากนั้นได้ยิงเสียงคล้ายปืน เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงพบมีบ้านเดี่ยวมีรั้วสูงรอบขอบชิด เมื่อตำรวจไปถึงทางแม่ผู้ก่อเหตุ ได้เปิดประตูให้เข้าไปในบ้านก็พบว่า มีชายแขกขาวอยู่ห้องรับแขก แล้วไรเดอร์บอกว่าจะมารับของ แต่ถูกชายแขกขาวกระชากเข้ามาในบ้านแล้วทำร้ายร่างกาย เมื่อไปตรวจสอบในบ้านพบอาวุธปืนวางอยู่ 5 กระบอก บนโต๊ะห้องรับแขก ผู้ก่อเหตุร่างกายมีกลิ่นเหล้าคละคลุ้ง
พ.ต.อ.พรทวี กล่าวต่อว่า โดยผู้ก่อเหตุให้การว่า ช่วง 4-5 วันที่ผ่านมา มีไรเดอร์มาป่วนกดกริ่งที่บ้านจนเดือดร้อนรำคาญ พอผู้เสียหายมาถึงหน้าบ้านในลักษณะกับที่เคยพบเจอ ก็เลยก่อเหตุ เพราะรู้สึกเหมือนกับถูกบุกรุก ส่วนอาวุธปืนยืนยันมีใบทะเบียนถูกต้อง ซึ่งอยู่ระหว่างตรวจสอบชื่อผู้ครอบครองอาวุธปืน
เบื้องต้นผู้ก่อเหตุเข้าข่ายความผิดทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ , กักขังหน่วงเหนี่ยว ส่วนความผิด พ.ร.บ.อาวุธปืน อยู่ระหว่างตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อหาเพิ่มเติมต่อไป ส่วนผู้เสียหายได้ทำใบส่งตัวไปตรวจร่างกายเพิ่มเติม เพื่อดูว่าอันตรายถึงสาหัสหรือไม่ เพื่อนำไปประกอบสำนวนแจ้งข้อหาเพิ่มเติม อย่างไรก็ตามยืนยันจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ไม่ว่าผู้เสียหายและผู้ก่อเหตุจะยากดีมีจนก็ตาม ส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างสอบสวน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับผู้ก่อเหตุนั้นใช้ “นามสกุล” เดียวกันกับบุคคลมีชื่อเสียง ซึ่งเป็นเจ้าของโรงแรม และธุรกิจหลายอย่างในย่าน เอกมัย ทองหล่อ และพื้นที่เศรษฐกิจอีกหลายพื้นที่.