เมื่อวันที่ 4 ก.พ. 2568 ที่ห้อง ศปก.สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ตั้งโต๊ะชี้แจงข้อเท็จจริง กรณีสื่อออนไลน์ที่นำเสนอข่าวของสื่ออังกฤษ เดลีเมล์ รายงานเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ นายแอนดรูว์ ฮอปกินส์ อายุ 55 ปี ถูกตำรวจพัทยาจับกุมถึง 2 ครั้ง และยังอ้างว่าถูกตำรวจทำร้าย ถูกขัง เพียงเพราะเดินชนป้ายบอกทาง และยังพาดหัวแรงอีกว่า ถูกปล้น ทำร้าย และต้องนอนอยู่ในห้องขังที่สกปรก โดยมี พ.ต.อ.นาวิน ธีระวิทย์ ผกก.สภ.เมืองพัทยา พร้อมด้วย พ.ต.ท.ศิรชัช หนูเทศ รอง ผกก.ป.สภ.เมืองพัทยา พ.ต.ท.ฐานานนท์ อธิพันสีห์ และ น.ส.อภิญญา วิทยานิกร ผู้จัดการ ไฮปาร์ค เรสซิเด้นซ์ และเจ้าหน้าที่ส่วนเกี่ยวข้อง ร่วมแถลง

สุดฉาว! นักท่องเที่ยวอังกฤษแฉสื่อนอก ถูกตำรวจทำร้ายระหว่างเที่ยวไทย

โดย น.ส.อภิญญา ชี้แจงว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจากการที่ นายแอนดรูว์ อยู่ในอาการมึนเมา ส่งเสียงดังโวยวาย ก่อความเดือดร้อนแก่ผู้อื่น และทำลายไม้กันทางเข้า ทำให้ทรัพย์สินของที่พักไฮปาร์ค เรสซิเด้นซ์ ได้รับความเสียหาย จึงได้แจ้งให้ตำรวจนำตัวไปควบคุมสงบสติอารมณ์ หลังถูกปล่อยตัวออกมา เจ้าตัวก็ยังกลับมาก่อเหตุอีกครั้งที่พักเดิม ส่งเสียงดังรบกวนผู้อื่น และมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมจนเจ้าของห้องเช่าเกิดความหวาดกลัว และแจ้งตำรวจให้เข้าควบคุมตัวอีกครั้ง

พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ ยืนยันว่าการจับกุมเป็นไปตามอำนาจหน้าที่ เนื่องจากได้รับแจ้งจากประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ไม่ใช่เพียงเพราะเดินชนป้ายบอกทางตามที่เป็นข่าวในสื่อต่างประเทศ และเรื่องการเอาเงินของคนดังกล่าว ก็เป็นเรื่องที่ไม่เป็นความจริง เพราะชายคนดังกล่าวได้พกทรัพย์สินของมีค่าติดตัวมา ได้เก็บรักษาไว้เพื่อไม่ให้นำเข้าห้องควบคุมโดยทำบันทึกก่อนและหลังการรับทรัพย์สินคืนอย่างถูกต้อง และได้รับคืนไปหลังจากได้รับปล่อยตัว ซึ่งทรัพย์สินดังกล่าวก็ได้ทำบันทึกไว้เป็นหลักฐานทุกขั้นตอน รวมถึงสภาพห้องขังที่สื่อเผยแพร่ก็เป็นข้อมูลอันเป็นเท็จ สถานที่ในภาพก็ไม่ใช่สถานที่ควบคุมขนาดเล็กของหน่วยงานแต่อย่างใด จึงเป็นเรื่องที่สื่อออนไลน์สร้างความเสื่อมเสียให้เกิดกับหน่วยงาน และชื่อเสียงของประเทศ

อย่างไรก็ดี ตำรวจเตรียมทำหนังสือยื่นเรื่องไปยังสถานทูตอังกฤษ เพื่อขอให้สื่อนอกช่วยแก้ข่าวที่ปรากฏออกไปเนื่องจากทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของเมืองพัทยา และสร้างความเสียหาย ทั้งนี้ทางตำรวจได้ดำเนินการควบคุมบุคคลที่สร้างความเดือดร้อนให้แก่คนอื่น และสังคม ตามกระบวนการทางกฎหมายอย่างเคร่งครัด และถูกต้อง ยังคงมุ่งมั่นดูแลสุจริตชนอย่างสุดกำลัง.