นางวราภรณ์ โอสถาพันธุ์ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวถึงการเปิดตัว “โรงเรียนดินและปุ๋ย” จังหวัดอุดรธานี ว่า “โรงเรียนดินและปุ๋ย” ภายใต้โครงการ “คูโบต้า พลิกฟื้นผืนดิน”เกิดขึ้นบนแนวคิดที่อยากให้เกษตรกร และผู้สนใจทำการเกษตรทุกคนเห็นความสำคัญของดิน จึงได้ร่วมกับ กรมพัฒนาที่ดิน เพื่อพัฒนาจัดการดินเพื่อการเกษตรอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนองค์ความรู้ด้านวิชาการ เทคโนโลยีสารสนเทศ การตรวจวิเคราะห์ดิน ผลิตภัณฑ์ พด. และเมล็ดพันธุ์พืชปุ๋ยสด รวมทั้งบุคลากรจากกรมพัฒนาที่ดิน และวิสาหกิจชุมชนทำนาห้วยตาดข่า ที่สยามคูโบต้าเข้าไปร่วมพัฒนาจนเกิดเป็น ศูนย์เรียนรู้ชุมชนพลังเกษตรสร้างสุขสยามคูโบต้า – ห้วยตาดข่า เมื่อปี 2560 และขยายผลสู่การสร้างโรงเรียนดินและปุ๋ย พร้อมกันนี้ยังมุ่งพัฒนาคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของเกษตรกรให้ดีขึ้น ภายใต้การพัฒนาที่ยั่งยืนหรือ Sustainable Development Goals (SDGs) ตามเป้าหมายที่ 15 (Goal 15 : Life on land) ปกป้อง ฟื้นฟู สนับสนุนการใช้ระบบนิเวศ ฟื้นสภาพการเสื่อมโทรมของที่ดิน และหยุดการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ
ดร. ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน กล่าวว่า การพัฒนาคุณภาพดินเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่สามารถมองข้ามได้ เพราะดินเป็นทรัพยากรธรรมชาติอันเป็นรากฐานของการผลิตทางการเกษตร กรมพัฒนาที่ดินได้มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาและจัดการทรัพยากรดินอย่างยั่งยืน โดยมีวิสัยทัศน์ที่จะเป็นองค์กรอัจฉริยะทางดิน เพื่อขับเคลื่อนการใช้ที่ดินอย่างเหมาะสม โดยมุ่งพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมการจัดการดินที่สอดคล้องกับสภาพพื้นที่ พร้อมสร้างศูนย์ข้อมูลอัจฉริยะทางดินเพื่อบริหารจัดการทรัพยากรที่ดินอย่างยั่งยืน รวมถึงพัฒนาระบบการบริหารจัดการที่ดินเชิงรุกผ่านการมีส่วนร่วม เพื่อรักษาสมดุลความเสื่อมโทรมของที่ดินและระบบนิเวศทางการเกษตร ซึ่งการจัดตั้งโรงเรียนดินและปุ๋ย ถือเป็นส่วนหนึ่งของก้าวสำคัญในการบรรลุวิสัยทัศน์นี้เช่นกัน สำหรับกรมพัฒนาที่ดิน เราให้ความร่วมมือในการถ่ายทอดข้อมูลผ่านบุคลากรที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านดิน อาทิ หมอดินอาสา เพื่อรองรับผู้ที่สนใจในการเรียนรู้เกี่ยวกับดินและปุ๋ย ในรูปแบบของการเรียนทฤษฎีและปฏิบัติ รวมถึงการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยในการตรวจวิเคราะห์คุณภาพดิน ความร่วมมือครั้งนี้ จะเป็นการเสริมสร้างศักยภาพของเกษตรกรและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำเกษตรกรรมอย่างยั่งยืน และต่อยอดในชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นายฉัตรเชาวสิโรตม์ ยอดคีรี ประธานวิสาหกิจชุมชนทำนาห้วยตาดข่า และประธานศูนย์เรียนรู้ชุมชนพลังเกษตรสร้างสุขสยามคูโบต้า – ห้วยตาดข่า กล่าวว่า วิสาหกิจชุมชนทำนาห้วยตาดข่า มุ่งให้ความสำคัญกับการดูแลดินตลอดมา เพราะเรามองว่า ดินกับการทำเกษตรเป็นของคู่กัน แต่ในอดีตที่ผ่านมาเกษตรกรต้องใช้เวลาทำความเข้าใจเรื่องดิน แม้จะได้รับการให้ความรู้ทั้งเรื่องธาตุอาหารในดิน การปรับปรุงดิน การเตรียมดิน แต่ในการปฏิบัติจริงเกษตรกรมักวัดเอาจากประสบการณ์ตามความเคยชิน ซึ่งในช่วง 2-3 ปี ที่ผ่านมา กลุ่มวิสาหกิจฯ และเกษตรกรในพื้นที่ได้เข้าอบรมองค์ความรู้เรื่องปุ๋ยทำให้เรามีวิธีการจัดการดินที่ดีขึ้น ซึ่งการก่อตั้งโรงเรียนดินและปุ๋ยจะช่วยให้เกิดเป็นพื้นที่ให้ความรู้ได้อย่างเป็นรูปธรรม ตลอดจนให้บริการตรวจดินและปุ๋ยจากหมอดินอาสาของชุมชนที่มีความเชี่ยวชาญที่คอยให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด ช่วยให้เกษตรกรได้เข้าใจสภาพดินในพื้นที่การเกษตรของตนเอง และสามารถนำความรู้ที่ได้รับเกี่ยวกับธาตุอาหารในดิน การใส่ปุ๋ยในสูตรหรือปริมาณที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของพืชแต่ละชนิด นำไปปรับใช้ได้อย่างเหมาะสม อีกทั้งสร้างโอกาสในการต่อยอดความรู้ให้แก่ชุมชนข้างเคียงได้ ขณะเดียวกันยังช่วยเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรจากการทำปุ๋ยสั่งตัดด้วย