น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.วัฒนธรรม (วธ.) เปิดเผยว่า สภาผู้แทนราษฎร ได้มีมติเห็นชอบร่างพ.ร.บ.คุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตลุ่มชาติพันธุ์ พ.ศ. … ไปเมื่อวันที่ 5 ก.พ. 2568 และส่งให้วุฒิสภาพิจารณาต่อไป ทั้งนี้ร่างพ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว ยังสามารถปรับปรุงได้ในชั้นกรรมาธิการวุฒิสภาและการพิจารณาร่วมของรัฐสภา ซึ่ง วธ.ได้ติดตามกระบวนการพิจารณาอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม แม้ว่าสาระสำคัญบางประการของกฎหมายไม่ผ่านการพิจารณาในชั้นสภาผู้แทนราษฎร แต่ วธ.ยืนยันว่าแนวทางการส่งเสริมสิทธิของกลุ่มชาติพันธุ์ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงร่างกฎหมายฉบับนี้ ยังมีนโยบายและมาตรการอื่นๆ ที่ช่วยส่งเสริมวิถีชีวิตของกลุ่มชาติพันธุ์ได้อย่างเป็นรูปธรรม นอกจากนี้กฎหมายฉบับดังกล่าวถือเป็นหมุดหมายสำคัญที่ทำให้กลุ่มชาติพันธุ์ได้รับการยอมรับการมีอยู่ในสังคมไทย เป็นโอกาสให้กลุ่มชาติพันธุ์ได้แสดงศักยภาพทางวัฒนธรรม อีกทั้งกฎหมายฉบับนี้ยังทำให้เกิดกลไกเชิงนโยบายที่เป็นรูปธรรมชัดเจนในการเข้ามาดูแลพี่น้องกลุ่มชาติพันธุ์โดยตรง ทำให้การคุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์มีแนวทางที่ชัดเจนและสอดคล้องกับวิถีชีวิตของพี่น้องกลุ่มชาติพันธุ์ทุกกลุ่มวัฒนธรรม และยังมีกลไกการมีส่วนร่วมของกลุ่มชาติพันธุ์ในการนำเสนอปัญหาและร่วมกันหาทางออกในรูปแบบของการคุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ ที่เป็นเวทีให้ตัวแทนกลุ่มชาติพันธุ์ได้มาหารือร่วมกันเพื่อพัฒนาข้อเสนอเชิงนโยบาย

รมว.วธ. กล่าวต่อไปว่า สำหรับในส่วนของพื้นที่คุ้มครองวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ ซึ่ง วธ.ตระหนักดีว่าเป็นความต้องการของพี่น้องกลุ่มชาติพันธุ์ แม้ผลการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรจะไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ที่ร่วมกันผลักดัน แต่หลักการของการกำหนดพื้นที่คุ้มครองวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ยังคงอยู่ในกฎหมายฉบับนี้ ทั้งหลักการเรื่องการจัดการพื้นที่แบบมีส่วนร่วม และการเคารพในหลักสิทธิชุมชน โดย วธ.จะร่วมผลักดันต่อไปในเชิงนโยบายผ่านคณะกรรมการคุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ เพื่อให้เกิดมาตรการในการแก้ไขปัญหาต่อไป