สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากเมืองเวนิส ประเทศอิตาลี เมื่อวันที่ 11 ก.พ. ว่า เมืองเวนิสจะกำหนดให้ผู้เยี่ยมชมต้องจ่ายค่าตั๋วเข้าชมเมืองล่วงหน้าเป็นเวลา 54 วัน ในปีนี้ ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 29 วัน เมื่อปีที่แล้ว

โครงการดังกล่าว ซึ่งเริ่มขึ้นเมื่อเดือน เม.ย. ปีที่แล้ว ทำให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาแบบไปเช้าเย็นกลับต้องจ่าย “ค่าธรรมเนียมเข้าชมเมืองเวนิส” 5 ยูโร (ราว 175 บาท) ในบางวัน โดยเทศบาลระบุว่า เป็นการทดลองเพื่อให้เมืองแห่งนี้ “น่าอยู่” มากขึ้น

ทั้งนี้ ผู้ที่ไม่มีตั๋วจะเสี่ยงต่อการถูกปรับตั้งแต่ 50-300 ยูโร (ราว 1,757-10,542 บาท) และจะมีการสุ่มตรวจที่หน้าทางเข้าของจุดสำคัญต่าง ๆ ภายในเมือง

เป้าหมายหลักของโครงการนี้ คือเพื่อไม่ให้นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับจากเรือสำราญ เข้ามาในเมืองมากเกินไปจนเกิดความแออัด

สำหรับปี 2568 ผู้ที่มีวันเดินทางในเดือน เม.ย., พ.ค., มิ.ย. และ ก.ค. ต้องซื้อตั๋วเพื่ออยู่ในเมืองเวนิส ระหว่าง 08.30-16.00 น.

สำหรับนักท่องเที่ยวที่ค้างคืน ซึ่งชำระภาษีนักท่องเที่ยวแล้ว จะได้รับการยกเว้นเช่นเดียวกับผู้อยู่อาศัย

หากซื้อตั๋วล่วงหน้า 4 วันก่อนเดินทาง ราคาตั๋วจะอยู่ที่ 5 ยูโร (ราว 175 บาท) แต่หากซื้อล่วงหน้าเพียง 3 วันก่อนเดินทาง ราคาจะเพิ่มขึ้นเป็น 10 ยูโร (ราว 351 บาท)

กลยุทธ์ดังกล่าวมีจุดมุ่งหมายเพื่อ “กำหนดระบบใหม่” สำหรับการจัดการกระแสนักท่องเที่ยว และลดการท่องเที่ยวที่แออัดในช่วงเวลาหนึ่ง

ผลการศึกษาของทางการพบว่า โดยเฉลี่ยแล้ว การเยี่ยมชมเมืองเวนิสในปี 2567 มักเป็นการจองไว้ล่วงหน้าเป็นเวลานาน ขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวซึ่งเดินทางแบบไปเช้าเย็นกลับ “ลดลงเล็กน้อย”.

เครดิตภาพ : AFP