สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 15 ก.พ. โดยอ้างข้อมูลจากแหล่งข่าวหลายคน ว่ารัฐบาลสหรัฐของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เห็นพ้องกับนโยบายของสำนักงานประสิทธิภาพรัฐบาล (ดอจ) ในการสั่งลดขนาดสำนักงานข่าวกรองด้านระบาดวิทยา ของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (ซีดีซี) ที่เรียกกันว่า “นักสืบโรคระบาด”
ทั้งนี้ มีรายงานว่า ซีดีซีต้องปลดเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานแห่งนี้ออกครึ่งหนึ่ง ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่ยังอยู่ในขั้นทดลองงาน เนื่องจากเป็นบุคลากรที่ยังไม่มีเงื่อนไขในการยกเลิกจ้างมากนัก
The CDC's "disease detectives" was halved as part of DOGE cuts at health agencies. https://t.co/plF52ig3y9
— CBS News (@CBSNews) February 14, 2025
ขณะที่แหล่งข่าวแสดงความกังวลไปในทางเดียวกัน ว่าการปลดบุคลากรส่วนนี้ออก จะส่งผลกระทบต่อความพยายามของซีดีซี ในการควบคุมโรคไข้หวัดนก ซึ่งแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่องในสหรัฐ และองค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) ให้ความเห็นเมื่อไม่นานมานี้ ว่ายังไม่ได้รับการแบ่งปันข้อมูลที่เพียงพอจากสหรัฐ
อนึ่ง สำนักงานข่าวกรองด้านระบาดวิทยาของซีดีซี ได้รับการก่อตั้งเมื่อปี 2494 เป็นโครงการฝึกอบรมระยะเวลา 2 ปี สำหรับผู้ที่จบการศึกษาระดับปริญญาเอกแล้ว โดยบุคลากรของหน่วยงานแห่งนี้ จะเป็นผู้ที่ “ต้องอยู่แนวหน้า” ของการสืบสวนสอบสวนโรค มีบทบาทการให้ความร่วมมือทั้งในและระหว่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการแพร่ระบาดของโรคอีโบลา เมื่อช่วงทศวรรษที่ 1970 และการยืนยันผู้ป่วยโรคโควิด-19 คนแรกของสหรัฐ
กระบวนการคัดเลือกนักสืบโรคระบาดของซีดีซี เป็นที่ทราบกันดีว่า เข้มข้นและมีการแข่งขันสูงมากในวงการแพทย์และวิทยาศาสตร์ของสหรัฐ ทุกปีที่มีการเปิดรับ จะมีผู้สมัครหลายร้อยคน และจะมีผู้ผ่านการคัดเลือกเพียง “ไม่กี่สิบคน” และการที่อดีตผู้อำนวยการซีดีซีหลายคนเป็นนักสืบโรคระบาดมาก่อน ทำให้หลายฝ่ายมองว่า โครงการนี้คือใบเบิกทาง สู่การเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงระดับประเทศในทางการแพทย์
ปัจจุบัน ทีมนักสืบโรคระบาดของซีดีซี มีสมาชิกประมาณ 140 คน โดยผู้ที่ได้รับการว่าจ้างเมื่อปี 2567 ได้รับอีเมลเลิกจ้างแล้ว ส่วนผู้ที่ได้รับการว่าจ้างเมื่อปี 2566 ได้รับอีเมลแจ้งว่า สถานะของทุกคน “อยู่ระหว่างการพิจารณา”.
เครดิตภาพ : AFP