สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 18 ก.พ. ว่า ขณะที่ผู้กำหนดนโยบายของยุโรป ยังคงได้รับผลกระทบหลัง นายเจ.ดี.แวนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐ กล่าวโจมตีสหภาพยุโรป (อียู) ในการประชุมความมั่นคงประจำปีที่เมืองมิวนิก ผู้นำคนสำคัญก็เข้าร่วมการประชุมที่ทำเนียบประธานาธิบดีฝรั่งเศส ซึ่งจัดขึ้นในนาทีสุดท้ายโดยประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส

ผู้นำยุโรปหลายคนแสดงความกังวลว่า ทรัมป์จะกีดกันพวกเขาและรัฐบาลเคียฟ ไม่ให้มีส่วนร่วมในการเจรจาสันติภาพกับรัฐบาลมอสโก ซึ่งความกลัวดังกล่าวชัดเจนยิ่งขึ้น เนื่องจากนักการทูตระดับสูงของรัสเซียและสหรัฐ จะพบหารือกันที่ซาอุดีอาระเบีย ในวันนี้ (18 ก.พ.)

DawnNews English

ทั้งนี้ บรรดาผู้นำยุโรปที่เข้าร่วมการประชุมในกรุงปารีส พิจารณามาตรการต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น การเพิ่มการใช้จ่ายด้านกลาโหมเพื่อลดการพึ่งพาสหรัฐ การรับประกันความมั่นคงแก่รัฐบาลเคียฟ และการส่งทหารไปยังยูเครน ในฐานะกองกำลังรักษาสันติภาพในการหยุดยิง

ด้านเซอร์เคียร์ สตาร์เมอร์ นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร กล่าวว่า เขาพร้อมที่จะพิจารณาส่งทหารสหราชอาณาจักรเข้าไปปฏิบัติการในยูเครน ร่วมกับกองกำลังอื่น ๆ หากมีข้อตกลงสันติภาพที่ยั่งยืน พร้อมกับยืนกรานว่า รัฐบาลวอชิงตันต้องมีส่วนร่วมด้วย

อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีโอลาฟ โชลซ์ ผู้นำเยอรมนี กล่าวหลังการเจรจาว่า การอภิปรายใด ๆ เกี่ยวกับการส่งกองกำลังรักษาสันติภาพไปยังยูเครนนั้น “ยังเร็วเกินไป” และ “ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง” ในขณะที่สงครามยังดำเนินอยู่

อนึ่ง หนังสือพิมพ์ “เลอมงด์” ของฝรั่งเศส รายงานว่า ยุโรปและสหรัฐเกิดความแตกแยก “ครั้งประวัติศาสตร์” ส่งผลให้ยุโรปต้องแสดงศักยภาพในการรับประกันความมั่นคงของทวีปด้วยตนเอง และสิ่งนี้ขึ้นอยู่กับความสามารถในการรักษาความสามัคคีของพวกเขา.

เครดิตภาพ : AFP