ความคืบหน้ากรณีครอบครัวณรงค์เดช เตรียมชี้แจงประเด็นการตัดสินของศาลสูงฮ่องกงเกี่ยวกับคดีปลอมลายเซ็น ดร.เกษม ณรงค์เดช ในการซื้อขายหุ้นบริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด ที่ยื่นฟ้องคุณหญิงกอแก้ว บุณยะจินดา นั้น

ต่อมาเมื่อวันที่ 5 พ.ย. นายธนพัฒก์ จันทร์เจริญสิน ทนายความของครอบครัว “ณรงค์เดช” ชี้แจง ยืนยันว่าข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นคือ ดร.เกษม ณรงค์เดช ในฐานะโจทก์ ได้ทำการถอนฟ้องคุณหญิงกอแก้ว เองที่ฮ่องกง เมื่อ 3 ปีที่แล้ว หลังจากตรวจสอบพบว่า ภายหลังจากยื่นฟ้องคดีที่ฮ่องกงแล้วว่า ลายมือชื่อของ ดร.เกษม ในเอกสารต้นทางประเทศไทยก่อนที่จะมีการปลอมลายมือชื่อโอนหุ้นกันเป็นทอด ๆ ไปสู่คุณหญิงกอแก้วที่ฮ่องกงก็เป็นเอกสารปลอมอีกเช่นกัน จึงเป็นสาเหตุของการถอนฟ้องคดีดังกล่าวที่ฮ่องกง และกลับมาดำเนินคดีที่ประเทศไทย

ศึก 2 ตระกูลดัง “ณรงค์เดช-บุณยะจินดา” ระอุอีก บ้านณรงค์เดช เตรียมแถลงชี้แจงคำสั่งศาลสูงฮ่องกงคดีฟ้องปลอมลายเซ็น

ทั้งนี้การที่ คุณหญิงกอแก้ว ได้นำคำพิพากษาของศาลสูงฮ่องกงเพียงบางส่วน ที่ ดร.เกษม ยื่นฟ้องและได้ถอนฟ้องคุณหญิงกอแก้ว มาแถลงเหมือนต้องการให้เกิดความเข้าใจผิด ว่าตนชนะคดีและเป็นเจ้าของหุ้นบริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด ซึ่งก่อให้เกิดความสับสน และเข้าใจผิดต่อสาธารณชน ส่วนในเรื่อง “ค่าใช้จ่าย” ที่เกิดขึ้นเนื่องจาก ดร.เกษม ในฐานะโจทก์ได้ทำการถอนฟ้องเท่านั้น และไม่ได้มีการตัดสินหรือคำพิพากษาในเนื้อหาของคดีว่าคุณหญิงกอแก้วปลอมหรือไม่ได้ปลอมเอกสาร และไม่ได้พิพากษาว่าคุณหญิงกอแก้วเป็นเจ้าของหุ้นบริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด ตามที่คุณหญิงกอแก้ว กล่าวอ้างแต่อย่างใด

นอกจากนี้ การปลอมลายมือชื่อ และการใช้เอกสารปลอมของคุณหญิงกอแก้วทั้งที่ฮ่องกงและประเทศไทย ยังเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่อัยการสูงสุดมีคำสั่งฟ้องคุณหญิงกอแก้วและพวก ซึ่งทาง ดร.เกษม ได้มีการยืนยันด้วยตนเองต่อศาลว่าลายมือชื่อที่ปรากฏในเอกสารที่ใช้ในการโอนหุ้น บริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง นั้นมิใช่ลายมือชื่อของตน และยังได้รับการตรวจสอบทั้งจากกองพิสูจน์หลักฐาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ซึ่งทั้ง 2 สถาบันล้วนให้ความเห็นสอดคล้องต้องกันว่า ไม่ใช่ลายมือชื่อของ ดร.เกษม ทั้งสิ้น

ด้วยเหตุผลดังกล่าว อัยการสูงสุดจึงพิจารณาสำนวนคดีแล้วมีคำสั่งฟ้องคุณหญิงกอแก้วและพวก ในความผิดฐานปลอมแปลงเอกสารสิทธิและใช้เอกสารสิทธิปลอม ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย.64 ขณะที่ผู้ต้องหาได้เลื่อนรายงานตัวถึง 5 ครั้ง จนที่สุดกองบังคับการตำรวจนครบาล 5 ต้องแถลงข่าวยืนยันต่อสื่อมวลชนว่า พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ จะออกหมายจับคุณหญิงกอแก้วกับพวก ในวันที่ 25 ต.ค.64 ที่ผ่านมา คุณหญิงกอแก้ว ต้องเข้าพบพนักงานอัยการและถูกยื่นฟ้องต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ เป็นคดีดำที่ อ.1708/2546 และกลายเป็นผู้ต้องหา และได้ขอประกันตัวต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่คุณหญิงกอแก้ว มากล่าวอ้างคำพิพากษาของศาลสูงฮ่องกง ส่อให้เห็นเจตนาว่าต้องการให้เกิดความเข้าใจผิดว่าตนเองเป็นผู้บริสุทธิ์

ด้าน นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความที่ดูแลคดีนี้ของคุณหญิงกอแก้ว เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวเดลินิวส์ว่า จากกรณีทนายความครอบครัวณรงค์เดชชี้แจงดังกล่าวนั้น ตนต้องขอดูข้อมูลแล้วก็ปรึกษากับลูกความก่อน คือตนมองว่าการชี้แจงนั้นเป็นการแก้ข่าวอย่างหนึ่ง ซึ่งเป็นสิทธิของทางครอบครัวณรงค์เดช ทั้งด้านคุณหญิงกอแก้ว ทั้งครอบครัวณรงค์เดช นายเกษมเองก็มีคดีความกันอยู่ แต่การแก้ข่าวหรือการให้ข้อมูลก็เป็นไปตามที่อยากจะให้ ส่วนการออกมาให้สัมภาษณ์นั้น ต้องพิจารณกันว่ามีถ้อยคำอะไรถ้าเข้าข่ายผิดกฎหมาย ก็อาจจะต้องใช้สิทธิตามกฎหมาย ต้องรอดูลูกความว่าเขาจะเอาผิดไหมอย่างไร หรือไม่อยากให้คดีแตกเป็นสาขาเยอะก็ค่อยไปคุยกันได้ ทั้งนี้เป็นแนวทางเท่านั้นยังไม่มีข้อยุติ ส่วนคุณหญิงท่านเป็นผู้ใหญ่ มีเมตตา และเงียบมาตลอด แต่ครั้งถูกกระทำอย่างไม่เป็นธรรมและมีความพยายามให้ท่านเสียทั้งชื่อเสียงและเงินทองจากการดำเนินธุรกิจที่สุจริต ท่านก็ต้องปกป้องตัวเองเป็นไปทำนองคลองธรรม

อย่างไรก็ตาม โดยปกติแล้วฝ่ายที่บอกข้อกล่าวอ้างก็จะให้ข้อมูลในสิ่งที่ตัวเองได้ประโยชน์ แต่ก็ต้องอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริงด้วย อย่างเรื่องคดีที่ศาลฮ่องกง มีการยุติคดีความด้วยการถอนฟ้อง จากนายเกษมจริง ซึ่งระบบศาลในต่างประเทศอย่าง ฮ่องกง การถอนฟ้องไม่สามารถทำได้ หากจำเลยไม่ยินยอม เพราะศาลป้องกันการฟ้องโดยมีเจตนาไม่สุจริตหรือฟ้องกลั่นแกล้งเพื่อให้จำเลยเกิดความเสียหาย เสียชื่อเสียง ในกรณีนี้ที่ศาลฮ่องกง จำเลยได้คัดค้านการขอถอนคดีของโจทก์ เมื่อศาลฮ่องกงตรวจสอบจากข้อมูล หรือคำเบิกความจากการไต่สวนของศาลฮ่องกง และก็เอกสารหรือข้อเท็จจริงต่างๆ ที่นำมาให้ทางศาลพิจารณา จากนั้นจะมีการเขียนคำวินิจฉัยออกมา คล้ายๆ เป็นคำพิพากษา แต่คำพิพากษานั้นไม่ได้ชี้ขาดว่าเอกสารดังกล่าวได้ปลอมขึ้น หรือไม่ได้ปลอม แต่ศาลของฮ่องกงมองว่าข้อมูลที่ทางโจทก์หรือนายเกษม เป็นข้อมูลที่ไม่ตรงไปตรงมา ศาลฯได้รับข้อมูลที่ไม่สุจริต และที่สำคัญนายเกษมก็ไม่ได้เป็นผู้เสียหายแต่อย่างใด

ดังนั้นไม่ใช่เรื่องที่คุณหญิงกอแก้วไปกล่าวหา ซึ่งการที่คุณหญิงกอแก้วออกมาตอบโต้ว่าไปกล่าวหา หลังถูกฟ้องคดีที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ คุณหญิงกอแก้วเพียงออกมาชี้แจงเท่านั้นว่ากรณีนี้ เคยขึ้นศาลที่ฮ่องกงมาแล้ว และทางศาลฮ่องกงได้ถอนฟ้องแล้วด้วยเหตุดังกล่าว

นายวิญญัติ ยังเปิดเผยอีกว่าในคำชี้แจงดังกล่าวที่ระบุว่า “…กล่าวอ้างถึงคำพิพากษาศาลสูงฮ่องกง ที่คุณหญิงกอแก้ว บุณยะจินดา อ้างว่าตนชนะคดีปลอมลายมือชื่อในการซื้อขายหุ้นบริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด..”  นั้นตนมองว่า เป็นการตั้งประเด็นที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริงในข่าวที่คุณหญิงได้ชี้แจงไป แต่จะมีเจตนาอะไรตนไม่ทราบ ขอให้สังคมใช้วิจารณญาณ.