สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 7 มี.ค. ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ กล่าวถึงนโยบายและจุดยืนของรัฐบาลวอชิงตัน ที่มีต่อองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ในเรื่องการใช้จ่ายงบประมาณกลาโหมของสมาชิกแต่ละประเทศ “เป็นเรื่องสามัญสำนึก” กล่าวคือ “หากไม่จ่าย สหรัฐก็จะไม่ปกป้อง”
ทรัมป์กล่าวต่อไปว่า หากสหรัฐเผชิญกับปัญหา แล้วบอกสมาชิกนาโตที่เหลือ อย่างฝรั่งเศส และอีกหลายประเทศ สมาชิกนาโตที่เหลือควรเข้ามาช่วยสหรัฐเช่นกัน แต่ผู้นำสหรัฐกล่าวว่า “โดยส่วนตัวไม่แน่ใจ”
FACT: Every other country's defense expenditures account for less than one-half of what the U.S. spends on NATO.
— Rapid Response 47 (@RapidResponse47) March 6, 2025
FACT: The U.S. accounts for about two-thirds of NATO's total defense budget.
FACT: In 2019, NATO Secretary Genera Jens Stoltenberg praised President Trump for “his… https://t.co/tb7hXZUNXz
ทั้งนี้ ผู้นำสหรัฐมีแนวคิดให้สมาชิกนาโตที่เหลือ เพิ่มสัดส่วนการใช้จ่ายงบประมาณกลาโหมเป็น 5% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี)
ปัจจุบัน แนวทางปฏิบัติของนาโตกำหนดให้ สมาชิกทั้ง 32 ประเทศ ดำเนินการให้สัดส่วนการใช้จ่ายงบประมาณกลาโหมของประเทศ อยู่ที่ 2% ของจีดีพี ซึ่งเป็นมติที่นาโตเห็นชอบร่วมกัน เมื่อปี 2557
ทรัมป์กล่าวตั้งแต่หลังชนะการเลือกตั้ง เมื่อปลายปีที่แล้ว ว่าหากสมาชิกนาโตแต่ละประเทศ “มีความรับผิดชอบ” ที่จะชำระค่าใช้จ่ายอย่างเคร่งครัด ตามสัดส่วนของตัวเอง และสหรัฐมองว่า “ยุติธรรม” เขาจะยังคงให้อเมริการ่วมเป็นสมาชิกของนาโตต่อไป
อย่างไรก็ตาม หากสถานการณ์ “เป็นไปในทางตรงกันข้าม” แน่นอนว่า สหรัฐจะถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิกนาโต ซึ่งเป็นการเน้นย้ำจุดยืนตั้งแต่รัฐบาลทรัมป์สมัยแรก ระะหว่างปี 2560-2564.
เครดิตภาพ : AFP