จีนเผยเป้าหมายเศรษฐกิจโตแกร่ง พร้อมนโยบายหนุนเต็มกำลัง

สำนักข่าวซินหัวรายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 7 มี.ค. ว่านายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีจีนประกาศเป้าหมายข้างต้น ระหว่างการนำเสนอรายงานการปฏิบัติงานของรัฐบาล ต่อที่ประชุมประจำปีของสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติ (เอ็นพีซี) เมื่อวันพุธที่ผ่านมา

ขณะเดียวกัน รายงานดังกล่าวยังระบุเป้าหมายการพัฒนาสำคัญอื่นของปีนี้ ทั้งรักษาอัตราว่างงานในเมืองกลุ่มสำรวจ อยู่ที่ราว 5.5% การสร้างตำแหน่งงานใหม่ในเมืองกว่า 12 ล้านอัตรา และเพิ่มดัชนีราคาผู้บริโภคให้อยู่ที่ราว 2%

จีนบรรลุเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจ ที่ระดับ 5% เมื่อปี 2567 ผลจากชุดนโยบายที่ส่งผลสัมฤทธิ์ กอปรกับมาตรการส่งเสริมการเติบโตอื่น ๆ ได้ช่วยกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศอย่างมาก

ปี 2568 นับเป็นปีสุดท้ายของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมระยะ 5 ปี ฉบับที่ 14 (2564-2568) ของจีน และมีความสำคัญต่อการร่างแผนพัฒนาสำหรับช่วง 5 ปีข้างหน้า บรรดานักสังเกตการณ์เชื่อว่า นโยบายของรัฐบาลจีนจะไม่เพียงขับเคลื่อนการเติบโตต่อเนื่องในปีนี้ แต่ยังวางรากฐานสำหรับความพยายามสร้างความทันสมัยในระยะยาวของจีนด้วย

ทำไมรัฐบาลจีนยังคงกำหนดเป้าหมายการเติบโตอยู่ที่ราว 5%

หลี่อธิบายว่า เป้าหมายนี้ตอบโจทย์ความจำเป็นในการรักษาเสถียรภาพการจ้างงาน ป้องกันความเสี่ยง และยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน รวมถึงสอดคล้องกับเป้าประสงค์ระยะกลางและระยะยาวของจีน โดยมีแรงสนับสนุนจากศักยภาพการเติบโต และสภาพการณ์อันเอื้ออำนวย

ด้านนายหวง ฉวินฮุ่ย ที่ปรึกษาทางการเมืองระดับชาติจากสถาบันเศรษฐศาสตร์ สังกัดสถาบันบัณฑิตสังคมศาสตร์แห่งชาติจีน กล่าวว่า เป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจของปีนี้ มีความสมเหตุสมผลและความเป็นไปได้จริง บ่งชี้ว่าจีนพร้อมเผชิญกับความไม่แน่นอน ด้วยแนวทางการเติบโตที่ชัดเจนและมั่นคง

ขณะเดียวกัน อัตราการเติบโตราว 5% ยังทำให้จีนจัดอยู่ในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่มีการเติบโตรวดเร็วที่สุดในโลก โดยมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจเทียบเท่ากับผลผลิตรายปีของประเทศเศรษฐกิจขนาดกลาง

อย่างไรก็ดี หลี่กล่าวว่า การบรรลุเป้าหมายของปีนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายและต้องพยายามอย่างหนัก เนื่องด้วยสารพัดความท้าทายจากสภาพแวดล้อมภายนอก อันซับซ้อนและรุนแรงเพิ่มขึ้น ทั้งการกระทำเพียงฝ่ายเดียวและการกีดกันทางการค้าที่เพิ่มขึ้น รวมถึงอุปสรรคความยากลำบากภายในประเทศ เช่น ขาดแคลนอุปสงค์ที่มีประสิทธิภาพ

นายกรัฐมนตรีจีนเรียกร้อง การเผชิญหน้ากับอุปสรรคความยากลำบากอย่างกล้าหาญ และความเชื่อมั่นในการพัฒนาเพิ่มขึ้น โดยรายงานการปฏิบัติงานของรัฐบาลจีน ระบุว่า จีนจะดำเนินนโยบายการคลังเชิงรุก และนโยบายการเงินแบบผ่อนปรนปานกลางเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ นโยบายการเงินแบบผ่อนปรนปานกลาง จะสร้างสภาพคล่องทางการเงินที่เพียงพอ ด้วยการตัดลดอัตราส่วนสินทรัพย์สภาพคล่อง (อาร์อาร์อาร์) และอัตราดอกเบี้ย ณ เวลาที่เหมาะสม และเพิ่มการสนับสนุนการสร้างสรรค์นวัตกรรม การพัฒนาสีเขียว การบริโภค ธุรกิจเอกชน และบริษัทขนาดเล็ก รวมถึงอสังหาริมทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

มีพลวัตและความยั่งยืนเพิ่มขึ้น

การบ่มเพาะการพัฒนาที่มีคุณภาพสูง เป็นวาระสำคัญของรัฐบาลจีนในปีนี้ ควบคู่กับพันธกิจอื่น ๆ ตั้งแต่กระตุ้นอุปสงค์ภายในประเทศจนถึงพัฒนาพลังการผลิตใหม่ที่มีคุณภาพ จีนจะดำเนินแนวทางที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง และนโยบายเศรษฐกิจที่มุ่งเน้นการยกมาตรฐานชีวิตความเป็นอยู่ และกระตุ้นการใช้จ่ายของผู้บริโภค

รายงานการปฏิบัติงานของรัฐบาลจีน ระบุว่าอุปสงค์ภายในประเทศจะเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของการเติบโตทางเศรษฐกิจ จีนจะออกพันธบัตรรัฐบาลที่มีอายุยาวนานพิเศษรวม 300,000 ล้านหยวน (ราว 1.4 ล้านล้านบาท) เพื่อสนับสนุนโครงการซื้อขายแลกเปลี่ยน (trade-in) สินค้าอุปโภคบริโภค

จีนจะบ่มเพาะพลังการผลิตใหม่ที่มีคุณภาพ ให้สอดคล้องกับสภาพการณ์ท้องถิ่น โดยตั้งเป้าหมายส่งเสริมอุตสาหกรรมเกิดใหม่และอุตสาหกรรมแห่งอนาคต เช่น เทคโนโลยีควอนตัมและเศรษฐกิจการบินระดับต่ำ เร่งการปรับปรุงอุตสาหกรรมดั้งเดิม และผสมผสานเทคโนโลยีดิจิทัล เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) เข้ากับจุดแข็งทางการผลิตและการตลาด

การแสวงหาทิศทางการเติบโตใหม่ ๆ ได้นำพาความคึกคักมีชีวิตชีวามาสู่เศรษฐกิจจีนอีกครั้ง ตั้งแต่เริ่มต้นปีนี้ ดังเช่นตลาดผู้บริโภคมีชีวิตชีวาด้วยภาพยนตร์แอนิเมชันจีน “นาจา 2” และความก้าวหน้าสำคัญในเทคโนโลยีล้ำสมัย ซึ่งรวมถึงการผงาดขึ้นมาของ “ดีปซีค”

รายงานการปฏิบัติงานของรัฐบาลจีนยืนยัน ความมุ่งมั่นเปิดกว้างของจีนด้วยแผนริเริ่มต่าง ๆ ทั้งขยายการทดลองเปิดกว้างภาคธุรกิจโทรคมนาคม การบริการทางการแพทย์ และการศึกษา ตลอดจนสนับสนุนผู้ประกอบการต่างชาติเข้าร่วมการประสานงานห่วงโซ่อุตสาหกรรม

นางแนนซี หลิว ประธานของ “ดีเอฟเอส ไชนา” ซึ่งเป็นบริษัทด้านการท่องเที่ยวหรูหรา กล่าวว่า รายงานการปฏิบัติงานของรัฐบาลจีนส่งสัญญาณชัดเจนว่า จีนจะยังคงขยายการเปิดกว้าง และปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางธุรกิจต่อไป โดยการเปิดกว้างของจีนสร้างโอกาสมากมายแก่บริษัท ซึ่งได้ลงทุนครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 60 ปี ในมณฑลไห่หนาน หรือเกาะไหหลำ ทางตอนใต้ของจีน และบริษัทเชื่อมั่นเต็มที่ ในการพัฒนาระยะยาวของตลาดจีน.

ข้อมูล-ภาพ : XINHUA