เมื่อเวลา 08.50 น. วันที่ 13 มี.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้องวินิจฉัยคุณสมบัติของรัฐมนตรีเรื่องความซื่อสัตย์สุจริตและมาตรฐานจริยธรรม ว่า รัฐบาลต้องเข้มงวดและละเอียดรอบคอบมากขึ้นเกี่ยวกับคุณสมบัติคนที่จะมาเป็นรัฐมนตรีหรือข้าราชการทางการเมือง เป็นไปตามที่วิญญูชนเห็นว่าควรจะเป็นอย่างไร 

เมื่อถามว่าแสดงว่าหากจะแต่งตั้งใครแล้วถูกสังคมตั้งคำถาม รัฐบาลจะต้องพิจารณาอย่างเข้มข้นใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า สังคมตั้งคำถาม ก็ต้องดูว่าเป็นสังคมส่วนไหน และถือเป็นเสียงทักท้วงต้องกลับไปดูให้รอบคอบ เมื่อถามอีกว่าการจะแต่งตั้งรัฐมนตรีนับจากนี้ต้องใช้มาตรฐานเข้มข้นเหมือนการตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) แพทองธาร 1 ใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่ได้คุยกัน และเรื่องนี้เป็นดุลพินิจของนายกรัฐมนตรีในการคัดเลือก แต่ส่วนตัวตนเห็นแบบนั้นว่าเมื่อศาลรัฐธรรมนูญยังไม่พิจารณา เราต้องรอบคอบมากขึ้น ส่วนจะมีมาตรการหรือการดำเนินการในระดับใด ก็คงเป็นสิ่งที่นายกฯเรียกหารือหรือใช้ดุลพินิจอย่างไรก็ได้

ผู้สื่อข่าวถามว่าแสดงว่าจะไม่กล้าแต่งตั้งบุคคลที่มีคุณสมบัติสุ่มเสี่ยง ใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ต้องรอบคอบมากขึ้น ส่วนจะแค่ไหนนั้น ต้องดูความเป็นจริง เพราะเรายังไม่รู้ว่าตำแหน่งอะไร หรือเป็นใคร โดนอะไร แค่ไหน อย่างไร ซึ่งเราต้องพิจารณาเรื่องข้อกฎหมายให้ชัดเจน เข้มงวด และคำนึงถึงเรื่องวิญญูชน เพราะศาลรัฐธรรมนูญเคยวินิจฉัยเรื่องคุณสมบัติโดยคำนึงถึงวิญญูชนในการตัดสินใจเราต้องเข้มงวดเรื่องนี้มากขึ้น และยอมรับว่าเป็นเรื่องยาก เพราะการที่จะบอกว่าวิญญูชนพึงกระทำนั้น มันยาก คงเป็นเรื่องที่ต้องไปขบคิดก่อน ซึ่งยังอีกไกล และขอย้ำว่าการยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความเรื่องนี้ไม่เกี่ยวเรื่องการปรับครม.ในเร็วๆ นี้ เพราะนายกฯย้ำไปแล้ว

เมื่อถามว่าศาลรัฐธรรมนูญไม่รับวินิจฉัยเรื่องคุณสมบัติรัฐมนตรี จะเป็นการส่งสัญญาณล่วงหน้าหรือไม่ ถึงกรณีที่รัฐสภาจะประชุมวันที่ 17 มี.ค. นี้ เตรียมเสนอญัตติถามศาลรัฐธรรมนูญว่าจะทำประชามติกี่ครั้ง นายภูมิธรรม กล่าวว่า 2 เรื่องนี้มีความแตกต่างกัน เพราะเรื่องการขอคำปรึกษาเรื่องคุณสมบัติรัฐมนตรียังไม่มีเหตุ และไม่ได้หมายความว่าทุกเรื่องส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้ อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ต้องไปถามศาลรัฐธรรมนูญ ถามตนไม่ได้