จากกรณีทางสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดเพชรบุรี จึงร่วมกับ กรมชลประทาน และ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแก่งกระจาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายภาคส่วน จัดโครงการปักหมุดพื้นที่เขื่อนเก่งกระจานขึ้น เพื่อสำรวจและดำเนินการแก้ไขปัญหานายทุนบุกรุกพื้นที่ริมเขื่อนแก่งกระจาน และหาแนวทางแก้ไขปัญหาให้กับชาวบ้านในพื้นที่รอบเขื่อนในระยะยาวนั้น

ล่าสุดวันที่ 25 มี.ค. วานนี้ที่ศาลากลางเพชรบุรี (หลังเก่า) จังหวัดเพชรบุรี ร.ต.ท.ภพชนก ชลานุเคราะห์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี เป็นประธานการประชุมคณะทำงานแก้ไขปัญหาการรุกล้ำพื้นที่อ่างเก็บน้ำแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี โดยมี นายภคพัส ส่งวัฒนายุทธ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี นายธนยศ หิรัญเนตร นายอำเภอแก่งกระจาน นายมีชัย ปฏิยุทธ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแก่งกระจาน หน่วยงาน ภาครัฐ ภาคส่วนความมั่นคง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคประชาชน เข้าร่วมประชุมเพื่อบูรณาการความร่วมมือแก้ไขปัญหาการบุกรุกพื้นที่อ่างเก็บน้ำแก่งกระจาน

สำหรับการประชุมครั้งนี้ ได้มีการสรุปปัญหาของภาคประชาชนในประเด็นการรุกล้ำพื้นที่อ่างเก็บน้ำเขื่อนแก่งกระจาน ซึ่งประชาชนในพื้นที่ประสบปัญหาหลักๆ ได้แก่ การบุกรุกพื้นที่เพื่อใช้น้ำจนเกิดการแย่งน้ำกันใช้ การขาดการพัฒนาในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องกับการบุกรุก ข้อมูลพื้นที่ระหว่างหน่วยงานต่างๆ ไม่สอดคล้องกัน ความเข้าใจคลาดเคลื่อนเกี่ยวกับขอบเขตพื้นที่ และการแย่งใช้พื้นที่เพื่อกิจกรรมต่างๆ ทั้งการเกษตร การเลี้ยงสัตว์ การท่องเที่ยว และการประมง

ป.ป.ช. ร่วม ผอ.เขื่อนแก่งกระจาน ลุยปักหมุด ทวงคืนพื้นที่อ่างเก็บน้ำ หลังนายทุนบุกรุกหนัก

มติที่ประชุมร่วมกัน 3 เรื่องคือ จัดชุดมวลชนสัมพันธ์สร้างการรับรู้และความเข้าใจให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เพื่อให้เกิดความร่วมมือด้วยกัน รวบรวมข้อมูลที่จำเป็นเพื่อใช้เป็นฐานข้อมูลในการแก้ปัญหา และรวบรวมข้อมูลเสนอผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องมารายงานในที่ประชุมครั้งต่อไป โดยคำนึงถึงข้อกฏหมาย การยอมรับของทุกฝ่าย ทั้งเรื่องแนวเขต แผนผัง และข้อกำหนดการแบ่งโซนพื้นที่

โดยมีเป้าหมายหลักคือ การสร้างความมั่นใจให้ประชาชนมีการใช้น้ำที่อุดมสมบูรณ์ ได้รับการพัฒนาและแก้ไขปัญหาในทุกมิติ มีข้อมูลพื้นที่ที่เป็นหนึ่งเดียว (ONE MAP) เพื่อสร้างความสมดุลในการใช้ประโยชน์ทรัพยากรและส่งเสริมความเข้าใจอันดีระหว่างหน่วยงานภาครัฐและประชาชนในพื้นที่ นำไปสู่การสร้างชุมชนที่มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนอย่างสมานฉันท์.