กรณี นายเจ (นามสมมุติ) อายุ 63 ปี ชาว จ.บุรีรัมย์ เข้าแจ้งความกับทางตำรวจ สภ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ หลังถูก น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 27 ปี ชาว จ.สุโขทัย หลอกลวงจะแต่งงาน ยอมให้นำที่ดินไปขาย ก่อนถูกฉ้อโกงเงินไปกว่า 10 ล้านบาท ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่สามารถตามจับกุมไว้ได้ นั้น

ล่าสุด นายเจ เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าว ซึ่งได้สร้างความแปลกใจให้กับผู้ทราบข่าวเป็นอย่างมาก ว่าทำไมลุงอายุมากแล้ว ยังมีความหวังกับเด็กอายุ 27 ปี และทำไมถึงต้องไว้ใจมากถึงขั้นให้เอาที่ดินไปขายเอง ว่า ตอนเป็นหนุ่มมุ่งแต่หาเงินเก็บอย่างเดียว พอรู้ตัวว่าแก่แล้ว ก็อยากจะมีลูกเป็นของตัวเอง และต้องการแม่ของลูกอายุประมาณ 25 ปี แต่ไม่เกิน 30 ปี

ที่ผ่านมาถูกหญิงสาวหลอกโอนเงินมาแล้วหลายครั้ง ที่จำได้คนที่ตกลงจะแต่งงานด้วยกัน มีสาว จ.กำแพงเพชร โดยโอนเงินให้ไปก่อน 100,000 แล้วเบี้ยวงานแต่ง คนที่ 2 อายุ 23 ปี ชาวปากน้ำ จ.สมุทรปราการ คนนี้โอนเงินช่วยแม่ป่วยมะเร็ง 150,000 บาท แล้วหายไป คนที่ 3 เป็นชาวม้ง โอนไป 100,000 บาท ไม่รวมกับที่มาๆ ไปๆ และแวะมาที่บ้าน ซึ่งโอนเงินให้อีกคนละไม่น้อยกว่า 100,000 บาท รวมทั้งหมดในปลายปี 63 มาจนถึงตอนนี้ไม่น้อยกว่า 15 คน ทั้งหมดไม่เคยแตะต้องตัว เพราะให้เกียรติที่ยังไม่ถึงวันแต่งงาน แต่คนนี้หนักสุดเสียไปกว่า 10 ล้านบาท

ลุงสายเปย์ตกหลุมรักรูปภาพสาวสวย แค่ 5 เดือนหมด 10 ล้าน เจอตัวจริงไม่ตรงปก

นายเจ กล่าวต่อว่า ตอนนี้ยังไม่ล้มเลิกความตั้งใจที่อยากจะมีเมีย ยังรับสมัครอยู่ แต่ขอมาด้วยความจริงใจพร้อมถวายชีวิตให้ พร้อมรักไปตลอดชีวิต แต่จะไม่โอนเงินไปก่อนอีกแล้ว ถ้าอยากจะมาใช้ชีวิตกับลุง
ยังรับสมัครอยู่ ลุงยังมีทรัพย์สินเหลืออยู่ แต่ในบัญชีตอนนี้เหลือ 240 บาท

ด้าน น.ส.สาวิตรี (สงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี เพื่อนบ้านลุงเจ เล่าว่า ลุงเป็นคนเปิดเผย คบกับผู้หญิงคนไหนมักจะมาเล่าให้ฟัง และยอมรับว่าโอนเงินให้หญิงสาวหลายครั้ง แต่ไม่ทราบจำนวน มีผู้หญิงเข้ามาหาลุงเป็นประจำ ส่วนใหญ่จะอยู่แค่ 1-3 วัน แล้วหอบกระเป๋าออกจากบ้านไป สาเหตุคาดว่าลุงเคยหาเงินเก็บมาแทบทั้งชีวิต หวังจะมีความสุขในบั้นปลาย จึงทำให้เกิดเรื่องในลักษณะดังกล่าว.