เมื่อวันที่ 30 มี.ค. 68 นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ล่าสุดได้รับรายงานจากนายสุริยพล นุชอนงค์ อธิบดีกรมชลประทานถึงผลการตรวจสอบเขื่อน หลังเกิดแผ่นดินไหวในเมียนมาและมีแรงสั่นสะเทือนถึงไทย โดยจากการตรวจวัดค่าอัตราเร่ง (ค่าวัดแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหว) ที่วัดได้ที่เขื่อนของกรมชลประทาน พบว่า มีค่าที่ตรวจวัดได้อยู่ระหว่าง 0.00505 -0.01647 g ซึ่งค่าที่ตรวจวัดได้ดังกล่าวไม่เกินค่าตามมาตรฐานการออกแบบของกรมชลประทานและตามหลักการขององค์กรเขื่อนใหญ่ระหว่างชาติ (ICOLD) กำหนดไว้เพื่อรองรับอัตราเร่งคือ ไม่เกิน 0.2 g ดังนั้น เหตุการณ์แผ่นดินไหวดังกล่าว จึงไม่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงแข็งแรงของตัวเขื่อนที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมชลประทาน
รมว.เกษตรฯ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้กรมชลประทาน ได้ออกแบบเขื่อนทุกแห่งให้สามารถรองรับแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวไว้ด้วยค่าที่สูงสุดของความเสี่ยงในพื้นที่ประเทศไทย นอกจากนี้ยังตรวจสอบและติดตามข้อมูลทางสถิติของค่าความเร่งสูงสุดที่เกิดจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวอยู่ตลอดเวลา เพื่อนำมาประเมินเหตุการณ์แผ่นดินไหว รวมทั้งแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบต่อเขื่อน เพื่อให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ท้ายเขื่อน มีความมั่นใจและเชื่อมั่นในความปลอดภัยแข็งแรงของเขื่อนตลอดเวลา
นางนฤมล กล่าวว่า นอกจากนี้ยังมอบหมายให้อธิบดีกรมชลประทาน สั่งการหน่วยงานในสังกัดเตรียมเครื่องจักร เครื่องมือ ที่พร้อมรับสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่พื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และกรุงเทพมหานคร เฝ้าระวังและ ติดตามข่าวสารจากหน่วยงานราชการอย่างใกล้ชิดด้วย.