สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 14 เม.ย. ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ กล่าวถึงการระงับใช้มาตรการภาษีต่างตอบแทนเป็นเวลา 90 วัน จนถึงวันที่ 9 ก.ค. นี้ ว่าเมื่อครบกำหนด “จะไม่มีใครรอดพ้นจากเรื่องนี้” เพราะสหรัฐต้องการแก้ไขความไม่สมดุลทางการค้า อุปสรรคทางการเงินและการค้าที่ไม่เป็นไปตามหลักการ และทุกประเทศที่ใช้นโยบายไม่เป็นธรรมเหล่านี้กับสหรัฐ โดยเฉพาะจีน
แม้มีการประกาศเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยสำนักงานศุลกากรสหรัฐ เกี่ยวกับการยกเว้นมาตรการภาษีต่างตอบแทน อัตรา 145% ที่สหรัฐประกาศใช้กับจีน ครอบคลุมสมาร์ตโฟน โน้ตบุ๊ก ชิปหน่วยความจำ โซลาร์เซลล์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อีกหลายชนิด ท่ามกลางคำเตือนว่า สินค้าเหล่านี้จะมีราคาแพงขึ้น “แบบพรวดพราด” หากรัฐบาลวอชิงตันยังคงใช้มาตรการนี้ต่อ
NOBODY is getting “off the hook” for the unfair Trade Balances, and Non Monetary Tariff Barriers, that other Countries have used against us, especially not China which, by far, treats us the worst! There was no Tariff “exception” announced on Friday. These products are subject to… pic.twitter.com/PDNoJmBS9f
— Donald J. Trump Posts From His Truth Social (@TrumpDailyPosts) April 13, 2025
อย่างไรก็ตาม ทรัมป์กล่าวว่า “ไม่มีการยกเว้น” ให้กับสินค้าเหล่านี้ ส่งสัญญาณว่า มาตรการดังกล่าว “มีผลแค่ชั่วคราว” และกล่าวว่า สินค้าเทคโนโลยีเหล่านั้นยังคงเผชิญกับอัตราภาษี 20% “จากมาตรการเรียกเก็บอีกแบบ” แต่ผู้นำสหรัฐไม่ได้ขยายความ
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์จีนออกแถลงการณ์ว่า “กำลังประเมินสถานการณ์และผลกระทบ” ในเรื่องนี้ ขณะเดียวกัน รัฐบาลปักกิ่งมองว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของสหรัฐ “คือจุดเริ่มต้นที่สำคัญของการแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาด” นั่นคือ การใช้มาตรการภาษีต่างตอบแทน ซึ่งจีนขอเรียกร้องให้รัฐบาลวอชิงตันยกเลิกมาตรการดังกล่าว บนพื้นฐานของการให้เกียรติซึ่งกันและกัน
ปัจจุบัน มากกว่า 20% ของสินค้าเทคโนโลยีที่ส่งออกมายังสหรัฐ มีต้นทางมาจากจีน และรัฐบาลปักกิ่งบังคับใช้มาตรการภาษีตอบโต้กับสหรัฐ ในอัตรา 125% เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา.
เครดิตภาพ : AFP