สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 14 เม.ย. ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ กล่าวถึงการระงับใช้มาตรการภาษีต่างตอบแทนเป็นเวลา 90 วัน จนถึงวันที่ 9 ก.ค. นี้ ว่าเมื่อครบกำหนด “จะไม่มีใครรอดพ้นจากเรื่องนี้” เพราะสหรัฐต้องการแก้ไขความไม่สมดุลทางการค้า อุปสรรคทางการเงินและการค้าที่ไม่เป็นไปตามหลักการ และทุกประเทศที่ใช้นโยบายไม่เป็นธรรมเหล่านี้กับสหรัฐ โดยเฉพาะจีน


แม้มีการประกาศเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยสำนักงานศุลกากรสหรัฐ เกี่ยวกับการยกเว้นมาตรการภาษีต่างตอบแทน อัตรา 145% ที่สหรัฐประกาศใช้กับจีน ครอบคลุมสมาร์ตโฟน โน้ตบุ๊ก ชิปหน่วยความจำ โซลาร์เซลล์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อีกหลายชนิด ท่ามกลางคำเตือนว่า สินค้าเหล่านี้จะมีราคาแพงขึ้น “แบบพรวดพราด” หากรัฐบาลวอชิงตันยังคงใช้มาตรการนี้ต่อ


อย่างไรก็ตาม ทรัมป์กล่าวว่า “ไม่มีการยกเว้น” ให้กับสินค้าเหล่านี้ ส่งสัญญาณว่า มาตรการดังกล่าว “มีผลแค่ชั่วคราว” และกล่าวว่า สินค้าเทคโนโลยีเหล่านั้นยังคงเผชิญกับอัตราภาษี 20% “จากมาตรการเรียกเก็บอีกแบบ” แต่ผู้นำสหรัฐไม่ได้ขยายความ


ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์จีนออกแถลงการณ์ว่า “กำลังประเมินสถานการณ์และผลกระทบ” ในเรื่องนี้ ขณะเดียวกัน รัฐบาลปักกิ่งมองว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของสหรัฐ “คือจุดเริ่มต้นที่สำคัญของการแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาด” นั่นคือ การใช้มาตรการภาษีต่างตอบแทน ซึ่งจีนขอเรียกร้องให้รัฐบาลวอชิงตันยกเลิกมาตรการดังกล่าว บนพื้นฐานของการให้เกียรติซึ่งกันและกัน


ปัจจุบัน มากกว่า 20% ของสินค้าเทคโนโลยีที่ส่งออกมายังสหรัฐ มีต้นทางมาจากจีน และรัฐบาลปักกิ่งบังคับใช้มาตรการภาษีตอบโต้กับสหรัฐ ในอัตรา 125% เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา.

เครดิตภาพ : AFP