“คนหาย” คำๆนี้ หลายๆ คนอาจจะเคยได้ยิน หรือได้ข่าวอยู่บ่อยๆ หากเป็นคนไม่รู้จัก ไม่ใช่ญาติ เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง ก็คงเป็นเรื่องที่ไม่ติดหู ติดตา
แต่ในมุมของผู้ที่เป็น พ่อแม่ ญาติพี่น้อง หรือ ครอบครัว ต้องร้อนใจ เป็นห่วง และรอรอยการกลับมาอย่างปลอดภัยของคนที่สูญหาย อย่างแน่นอน
โดยในช่วง 22 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยมีรายงานผู้สูญหายกว่า 18,000 ราย หรือเฉลี่ยแล้ว ทุกๆ 4 ชั่วโมงจะมีคนหายหนึ่งคน แต่ด้วยความไม่แพร่หลายของข่าว และจำนวนคนที่รับรู้ใบหน้าผู้สูญหายมีน้อย ภารกิจการค้นหาจึงขาด “สายตา” ที่จำเป็นในการเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ให้ค้นพบ “คนหาย” ได้มากขึ้น

วันนี้ คอลัมน์ “ชีวิตติด TECH” มีโครงการที่น่าส่งเสริม เพื่อช่วยพา “คนหาย” กลับบ้านได้ โดยใช้เทคโนโลยีและเครือข่ายของทรัพยากรในระบบนิเวศน์ที่มีอยู่
ซึ่งเป็นความร่วมมือของ “Grab” ซูเปอร์แอปอันดับหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สถานีวิทยุเพื่อความปลอดภัยและการจราจรอย่าง “สวพ. FM91” และ “YDM Thailand” ครีเอทีฟเอเจนซีชื่อดัง
โดยได้เปิดตัว แคมเปญในโครงการ “Grab The Missing” เพื่อสร้างเครือข่ายค้นหาผู้สูญหายทั่วประเทศ ผ่านไรเดอร์และพี่คนขับ Grab นับแสนรายทั่วไทย
โดยปัจจุบัน Grab ได้ให้บริการทั้งด้านเดลิเวอรี บริการการเดินทางและบริการทางการเงินดิจิทัล ครอบคลุมกว่า 800 เมืองใน 8 ประเทศ ได้แก่ กัมพูชา อินโดนีเซีย มาเลเซีย เมียนมาร์ ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม ในทุกๆวันแกร็บได้ช่วยอำนวยความสะดวกผู้คนนับล้านให้สามารถเข้าถึงบริการต่างๆ ได้ภายในแอปพลิเคชันเดียว
ซึ่งแคมเปญ “Grab The Missing” ในประเทศไทย ได้เริ่มใช้งานจริงตั้งแต่ปลายเดือนมี.ค.68 ที่ผ่านมา ผ่านระบบแจ้งเตือนและรายงานแบบเรียลไทม์ที่ฝังอยู่ในแอปพลิเคชัน Grab ของคนขับและไรเดอร์ทั่วประเทศ ที่ระบบสามารถรายงานเบาะแสทันที เสมือนเป็นการสร้างเครือข่าย “ตาสับปะรด” ที่ช่วย “เป็นหู เป็นตา” รวมถึงเป็นแนวหน้าในการค้นหา “คนหายทั่วประเทศ”

ถือเป็นการใช้เทคโนโลยี เปลี่ยนการเดินทางให้กลายเป็น “ภารกิจแห่งความหวัง” โดยการพลิกโฉมบริการออนดีมานด์ ที่มีคนใช้จำนวนมากในทุกวัน ในทั่วประเทศ ให้กลายเป็นเครือข่ายค้นหาผู้สูญหายแห่งแรกของประเทศไทย ด้วยการใช้ประโยชน์จากจำนวนไรเดอร์และคนขับที่ออกวิ่งทุกวันทั่วเมือง ทั้งในตรอก ซอก ซอย ย่านชุมชน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มักพบผู้สูญหายครั้งสุดท้าย
อย่างที่รู้กันว่าในทุกๆวัน ไรเดอร์ Grab ได้ออกทำงาน รับออเดอร์ เดินทางทุกวัน เข้าออกชุมชน ตลาด และตรอกซอกซอยต่างๆ อย่างต่อเนื่อง พวกเขาจึงมี “สายตา” และ “การเคลื่อนไหว” ที่คนทั่วไปไม่มี คือโอกาสในการสังเกตหรือพบเจอผู้ที่สูญหายได้มากกว่าใคร แทนที่จะขอให้ ประชาชน ช่วยจำใบหน้าคนหาย แคมเปญนี้ใช้ประโยชน์ จากคนที่อยู่หน้างานทุกวัน เปลี่ยน กิจวัตรของพวกเขาให้กลายเป็น ภารกิจช่วยชีวิต
หลายๆ คนอาจจะส่งสัยว่า แล้ว ระบบ หรือ แคมเปญ “Grab The Missing” จะทำงานกันอย่างไรนั้น?
สำหรับการทำงานในระบบนั้น เป็นการนำเทคโนโลยี มาช่วย โดยการทำงานของระบบนั้น มีรายละเอียดดังนี้
-แจ้งเตือนพื้นที่เป้าหมาย
ข้อมูลผู้สูญหายจาก สวพ. FM91 จะถูกฝังไว้ใน Plug-in Layerบนแอปพลิเคชั่นของคนขับ Grab เมื่อมีรายงานผู้สูญหายในพื้นที่ใด ระบบจะแจ้งเตือนไรเดอร์ในบริเวณนั้นทันที พร้อมภาพและรายละเอียดของผู้สูญหาย ว่าชื่ออะไร อายุ เพศ เป็นต้น

-ไรเดอร์เป็นด่านหน้าในการสังเกต
เมื่อข้อมูลถูกนำเข้าระบบแล้ว เมื่อทางไรเดอร์เริ่มทำงาน หรือขับรถ เข้าสู่พื้นที่ที่มีการรายงานผู้สูญหายในเขตต่างๆ พวกเขาสามารถดูรายละเอียดข้อมูลของคนหาย แบบเรียลไทม์ และสามารถช่วยสอดส่อง เป็นหู เป็นตา ในการช่วยค้นหา พร้อมสังเกตในขณะเดินทางทำงานได้
-รายงานเบาะแสได้ทันที
เมื่อมีไรเดอร์ ตามพื้นที่ต่างๆ ค้นพบหรือมีเบาะแสผู้มีลักษณะตรงกับข้อมูลในแอปอล้วนั้น ทาง ไรเดอร์สามารถกดรายงานได้ทันทีผ่าน Plug-inLayerซึ่งข้อมูลจะถูกส่งต่อไปยัง สวพ. FM91แบบเรียลไทม์ เพื่อประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อ เพื่อตรวจสอบ หรือลงพื้นที่หาว่าเป็น คนหาย ตามข้อมูลที่มีหรือไม่

ปัจจุบันนี้ ระบบ Grab The Missing ได้เริ่มใช้งานจริงบนแอปของไรเดอร์และคนขับ Grab ทั่วประเทศแล้ว ถือเป็น ก้าวสำคัญของวงการเทคโนโลยีและการขนส่ง ที่หวังว่าจะสามารถนำเทคโนโลยีมาสร้างผลกระทบเชิงบวกแก่สังคมในวงกว้าง โดยเฉพาะถือเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ที่มีการนำ เครือข่ายไรเดอร์ ที่ทำงานส่งอาหารระดับประเทศได้กลายเป็นเครื่องมือช่วยชีวิตคน ไม่ใช่แค่การส่งอาหารหรือพาผู้โดยสารไปยังจุดหมายเพียงอย่างเดียว
แต่เป็นการส่งความหวังและโอกาสในการพา “คนหาย” กลับบ้าน ไปพบกับญาติพี่น้อง ครอบครัว คนรัก ที่รอเขาอยู่อย่างมีความหวังด้วย!?!
Cyber Daily