สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากเมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 21 เม.ย. ว่า นับตั้งแต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ เข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา เขาได้ระงับเงินช่วยเหลือต่างประเทศ ยุติการดำเนินงานของหน่วยงานเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศสหรัฐ (ยูเอสเอด) และโครงการอื่น ๆ รวมถึงประกาศแผนถอนตัวออกจากดับเบิลยูเอชโอ
อนึ่ง รัฐบาลวอชิงตัน ซึ่งเป็นผู้บริจาครายใหญ่ที่สุดของดับเบิลยูเอชโอมาอย่างยาวนาน ไม่ได้จ่ายค่าธรรมเนียมสำหรับปี 2567 และยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า สหรัฐจะปฏิบัติตามพันธกรณีการเป็นสมาชิกของดับเบิลยูเอชโอในปี 2568 หรือไม่
Trump aid cuts strain response to health crises worldwide: WHOhttps://t.co/QgKRIsr5Cf
— South China Morning Post (@SCMPNews) April 20, 2025
อย่างไรก็ตาม ดับเบิลยูเอชโอ ซึ่งเผชิญกับการขาดดุลอย่างหนักในปีนี้ เสนอให้มีการลดงบประมาณ 20% ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะทำให้การเข้าถึงและกำลังคนของหน่วยงานลดลงเช่นกัน
“ดับเบิลยูเอชโอและพันธมิตร มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนระบบการดูแลสุขภาพ การฟื้นฟูระบบการดูแลสุขภาพ รวมถึงการฝึกอบรมและการส่งทีมแพทย์ฉุกเฉิน และการเตรียมชุดปฐมพยาบาลก่อนการดำเนินงาน ซึ่งในปัจจุบัน โครงการเหล่านี้หลายโครงการชะงักงัน หรือไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้” พญ.ฮานัน บัลคี ผู้อำนวยการดับเบิลยูเอชโอ ประจำภูมิภาคเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออก กล่าว
นอกจากนี้ พญ.บัลคี ระบุเสริมว่า การตัดงบประมาณอาจขัดขวางความสามารถในการส่งมอบความช่วยเหลือให้กับชุมชนที่ต้องการการดูแลอย่างเร่งด่วน และหากสหรัฐถอนตัวออกจากดับเบิลยูเอชโอ ก็จะส่งผลกระทบต่อช่องทางการสื่อสารที่มีมาอย่างยาวนาน ระหว่างดับเบิลยูเอชโอกับสถาบันต่าง ๆ ในสหรัฐด้วย.
เครดิตภาพ : AFP