เมื่อวันที่ 22 เม.ย. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภาพลำน้ำมูล ลำน้ำสายหลักไหลผ่านตัวเมือง อ.พิมาย จ.นครราชสีมา บริเวณหน้าเขื่อนพิมาย มีปริมาณน้ำเหลือน้อยมาก มีผักตบชวาขึ้นปกคลุมหนาทึบจนแทบมองไม่เห็นผิวน้ำ ตามแนวลำน้ำขนาดใหญ่มีน้ำค่อนข้างน้อย บางจุดมีสันดอนดินโผล่เป็นบริเวณกว้าง ตัวเขื่อนมีการปิดบานประตูระบายน้ำขนาดใหญ่ทั้ง 6 บาน ไม่มีน้ำไหลผ่าน เช่นเดียวกับบริเวณด้านท้ายเขื่อน มีปริมาณน้ำน้อย สภาพตื้นเขิน จุดใต้สะพานข้ามลำน้ำมูล เป็นแนวสันดอนดินขนาดใหญ่ ไม่มีน้ำ มองเห็นผิวน้ำขาดช่วง ไม่เป็นผืนน้ำเดียวกัน

ส่วนบริเวณประตูระบายน้ำปากคลองสายใหญ่ ระดับน้ำตื้นเขิน ต่ำกว่าแนวบานประตู จึงต้องปิดประตู 2 บาน ไม่มีน้ำไหลผ่าน ทำให้คลองส่งน้ำขนาดใหญ่มีสภาพแห้งขอดสนิท ไม่มีการระบายน้ำออกจากตัวเขื่อน เช่นเดียวกับประตูระบายน้ำอีก 3 จุด ทั้งประตูระบายน้ำลำน้ำเค็ม ลำสะแทด และธรรมจักรพัฒนา ไม่มีน้ำไหลผ่าน ต้องปิดประตูทุกบาน สภาพทางกายภาพบ่งบอกถึงสถานการณ์ภัยแล้งที่กำลังคุกคามอยู่

นายปิยภัทร สายเมฆ ผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาทุ่งสัมฤทธิ์ (เขื่อนพิมาย) กล่าวว่า สภาพของเขื่อนพิมายที่กั้นแนวลำน้ำมูลช่วงไหลผ่านตัวเมือง อ.พิมาย คุณลักษณะไม่ได้เป็นเขื่อนกักเก็บน้ำ ไม่มีแหล่งกักเก็บน้ำขนาดใหญ่ แต่เป็นเขื่อนสำหรับทดน้ำ ทำให้สถานการณ์ฤดูแล้งทุก ๆ ปี จึงมองเห็นปริมาณน้ำค่อนข้างน้อย ล่าสุดปริมาณน้ำบริเวณเหนือเขื่อนพิมาย มีน้ำอยู่ที่ 1,031,000 ลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 28% ของความจุ ยืนยันปริมาณน้ำที่เหลืออยู่ เพียงพอสำหรับผลิตประปาภูมิภาคหล่อเลี้ยงเขตเศรษฐกิจตัวเมืองพิมาย ไปจนถึงสิ้นสุดฤดูแล้ง น้ำประปาไม่ขาดแคลนอย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ตั้งแต่เริ่มเข้าสู่ช่วงฤดูแล้ง เขื่อนพิมายได้แจ้งเตือนชาวบ้านในเขตชลประทานให้งดทำนาปรัง เพื่อสำรองน้ำผลิตประปา เพราะหวั่นเกรงผลผลิตเสียหาย เนื่องจากปริมาณน้ำน้อย จนถึงขณะนี้สถานการณ์แล้งอาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่การเกษตรบ้าง แต่ยืนยันยังไม่ส่งผลกระทบต่อระบบน้ำประปาอุปโภคบริโภค และมั่นใจว่ามีปริมาณน้ำเพียงพอสำหรับผลิตประปาไปจนถึงฤดูฝนปีนี้.