สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 22 เม.ย. ว่า นายหวัง อี้ รมว.การต่างประเทศจีน กล่าวในการแถลงข่าวสรุป หลังการประชุมเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ว่าภูมิทัศน์ระหว่างประเทศเผชิญกับผลกระทบรุนแรงจากการกระทำฝ่ายเดียว และการใช้อำนาจครอบงำ พร้อมกับเสริมว่า ยิ่งสภาพแวดล้อมภายนอกซับซ้อนและผันผวนมากเท่าใด การแสวงหาความสามัคคีและความร่วมมือของจีนกับอินโดนีเซีย ก็ยิ่งมีความสำคัญมากขึ้นเท่านั้น
ขณะที่ พล.ท.ซาฟรี สยัมซุดดิน รมว.กลาโหมอินโดนีเซีย กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ แสดงถึงคุณค่าของการกระชับความร่วมมืออินโดนีเซีย-จีน ในภาคส่วนกลาโหม โดยชี้ให้เห็นถึงการแลกเปลี่ยนทางทหารระดับสูงอย่างสม่ำเสมอ การฝึกร่วมกัน และความร่วมมือระหว่างกองทัพของประเทศต่าง ๆ กับอุตสาหกรรมการป้องกันประเทศ
Top Chinese, Indonesian officials forge closer security links https://t.co/00pgiY5l6C
— ST Foreign Desk (@STForeignDesk) April 21, 2025
นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังประกาศแผนจัดการซ้อมรบร่วมในปีนี้ ซึ่งเป็นสัญญาณของความสัมพันธ์ด้านความมั่นคงที่เติบโตขึ้น ระหว่างประเทศที่มีความขัดแย้งมาอย่างยาวนาน ในทะเลจีนใต้ที่เป็นข้อพิพาท
China and Indonesia held the First Ministerial Meeting of Joint Foreign and Defense Ministerial Dialogue in Beijing on Monday. https://t.co/nr5kZOfnWL pic.twitter.com/w4JRqQuAek
— CCTV+ (@CCTV_Plus) April 22, 2025
การซ้อมรบที่กำลังจะมีขึ้นนี้ มุ่งเน้นไปที่การต่อต้านการก่อการร้าย ซึ่งสะท้อนถึงกลยุทธ์ที่สหรัฐใช้มาเป็นเวลานาน ในการกระชับความสัมพันธ์ทางทหารในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะในฟิลิปปินส์ ขณะที่รัฐบาลปักกิ่ง ยกระดับการทูตทางทหารในภูมิภาค โดยแข่งขันกับรัฐบาลวอชิงตัน เพื่อชิงอิทธิพลทางยุทธศาสตร์ ท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในอินโด-แปซิฟิก
อนึ่ง การประชุมดังกล่าว มีขึ้นในขณะที่รัฐบาลปักกิ่งพยายามชนะใจประเทศต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และยุโรป เนื่องจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากประเทศที่เป็นมิตรและศัตรู.
เครดิตภาพ : AFP