นางศศิฑอณร์ สุวรรณมณี หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวในการเป็นประธานเปิดตัวโครงการ Thai Power Probiotics & Flavor of Thai Food Health Wellness เมื่อเร็วๆ นี้ ว่า โครงการดังกล่าว เป็นโอกาสสำคัญที่เราจะได้ประกาศศักยภาพของอาหารหมักดองไทย ให้เป็นที่รู้จักในระดับสากล ผ่านโครงการ Thai Power Probiotics ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการส่งเสริม Soft Power ไทย โดยใช้มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม เป็นเครื่องมือขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และยกระดับคุณค่าของอาหารหมักดองไทยสู่ตลาดโลก ซึ่ง วธ.ให้ความสำคัญกับการนำภูมิปัญญาท้องถิ่น มาต่อยอดเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคอาหาร ซึ่งเป็นหนึ่งใน Soft Power หลักของไทย อาหารไทยไม่ได้เป็นเพียงแค่อาหาร แต่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สะท้อนอัตลักษณ์ของชุมชน และเป็นทุนวัฒนธรรมที่สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ

นางศศิฑอณร์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับอาหารหมักดองไทย เป็นอีกหนึ่งมรดกทางวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น และมีบทบาทสำคัญต่อสุขภาพมาอย่างยาวนาน ปัจจุบันอาหารหมักดองที่อุดมไปด้วยโพรไบโอติกส์ (Probiotics) ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในระดับโลก โครงการนี้จึงมีเป้าหมายในการพัฒนาอาหารหมักดองของไทยให้ก้าวสู่ตลาดโลกอย่างมั่นคงและยั่งยืน โดยเฉพาะเมนู “ข้าวหมากไทย” เป็นหนึ่งใน Soft Power ที่สำคัญ เพราะสะท้อนทั้งวัฒนธรรม วิถีชีวิต และภูมิปัญญาการดูแลสุขภาพของคนไทยที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน เชื่อว่า “ข้าวหมากไทย” สามารถก้าวไปได้ไกลเพราะมีรากฐานทางวัฒนธรรมและศักยภาพทางสุขภาพที่เชื่อมโยงกับวิถีชีวิตของผู้คนยุคใหม่

นอกจากนี้ วธ.ยังให้ความสำคัญกับบทบาทของชุมชน ในฐานะแกนหลักของการขับเคลื่อน Soft Power ไทย โครงการ Thai Power Probiotics จึงเป็นมากกว่าการส่งเสริมสินค้า แต่เป็นการสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจให้กับชุมชน โดยผ่านการสนับสนุนให้ผู้ผลิตจากท้องถิ่นสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ได้มาตรฐานระดับสากลและมีช่องทางในการเข้าสู่ตลาดโลก ซึ่งจะเป็นแรงผลักดันสำคัญในการทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของ Gastronomy & Wellness Tourism หรือการท่องเที่ยวเชิงอาหารและสุขภาพ ซึ่งกำลังเป็นเทรนด์สำคัญของโลก