แต่เมื่อไม่กี่วันมานี้ พวกเขาบอกว่าตามที่ได้ติดตามสภาวะอากาศเปลี่ยนแปลงมาอย่างใกล้ชิด ลานีญา ได้โบกมืออำลาพวกเราไปแล้ว หลังจากอ่อนแรงมาสักพัก คงจะไปพร้อมกับทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีใหญ่ทั่วโลก เขาสังเกตเห็นอุณหภูมิผิวน้ำเริ่มเปลี่ยนแปลงสูงขึ้น สภาพแพลงก์ตอน และแหล่งอาหารเปลี่ยนทิศ ทำให้เหล่าสัตว์ทะเลต่าง ๆ หลงทาง ปรับตัวกันไม่ทัน ฝูงปลาเดินทางแปลก ๆ ไปตามแหล่งที่ไม่เคยพบมาก่อน ซึ่งชาวประมงท้องถิ่นต่างตกใจ

เมื่ออุณหภูมิของพื้นผิวมหา สมุทรปรับสภาพเป็นกลาง มีสูง และต่ำสลับไปมา ไม่เย็นลงยาวนานแบบที่นักวิทยาศาสตร์คาดไว้ แล้วพวกเราจะเจอสภาพอากาศแบบไหน นักอุตุนิยมคาดการว่าปีนี้อุณหภูมิจะสูงขึ้น น่าจะร้อนที่สุดเป็นอันดับ 3 รองจาก 2 ปีที่ผ่านมา แต่ความรู้สึกจะร้อนอ้าวกว่าเดิม เพราะความชื้น การอับอากาศ ภาวะความหนาแน่นขอก๊าซเรือนกระจกที่เพิ่มขึ้นมาก และกระแสลมที่แผ่วลง แถมจะมีฝนกระจุก ที่เรียกว่า Rain Bomb มาเป็นระยะ ๆ เตรียมตัวรับมือกับพายุที่ไม่ได้คาดเดา บางทีลมแรง ฟ้าร้องฟ้าผ่าเสียงดัง ฟ้าดำครึ้มมา แต่ฝนก็ไม่ตก หรือบางทีท้องฟ้าสว่างอยู่ดี ๆ ฝนก็กระหน่ำเทลงมาเป็นจุด ๆ เตรียมรับมือน้ำท่วม น้ำรอระบาย น้ำป่าไหลหลาก ดินถล่มไว้ให้ดี และยังบอกอีกว่าอาจจะเกิดในพื้นที่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ขอให้พวกเราเตรียมความพร้อมรับมือหายนะเหล่านี้ไว้ให้ดี
การเปลี่ยนแปลงที่คาดเดาไม่ได้ของธรรมชาติเหล่านี้ เกิดขึ้นจากมนุษย์อย่างพวกเรา ที่ไม่สนใจเรื่องการปล่อยคาร์บอน ไม่รู้ว่าตัวเองทำลายโลกอย่างไร ไม่ควบคุมตัวเองให้ปล่อยคาร์บอนตามกำหนด 2 ตันต่อคนต่อปี ยังคงใช้ชีวิตปกติที่ปล่อยคาร์บอนกันคนละ 8-15 ตันต่อปี รีบเลยนะครับ “รีบรู้ รีบลด รีบชดเชย”.