เมื่อเวลา 10.45 น. วันที่ 1 พ.ค. ที่ ห้องอบรมความเชี่ยวชาญ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ศูนย์ราชการฯ อาคารเอ ชั้น 7 ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ พ.ต.ท.อมร หงษ์ศรีทอง ผอ.กองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ เปิดเผยความคืบหน้าก่อนดำเนินการเปิดเอกสารเกี่ยวกับโครงการก่อสร้างตึก สตง. ร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมโยธาธิการและผังเมือง ผู้แทนกิจการร่วมค้า ITD-CREC (บริษัท อิตาเลียนไทยฯ และบริษัท ไชน่า เรลเวย์ฯ) ผู้แทนกิจการร่วมค้า PKW และผู้แทน สตง. ว่า สำหรับภาพรวมที่กรมสอบสวนคดีพิเศษจะดำเนินการในวันนี้ แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ 1.การสอบสวนปากคำพยานวิศวกร ภายใต้กิจการร่วมค้า PKW 10 ราย โดยในวันนี้มีวิศวกรยืนยันเข้าพบพนักงานสอบสวน 8 ราย แบ่งเป็นสอบสวนปากคำในช่วงเช้า 4 ราย และช่วงบ่ายอีก 4 ราย ทั้งนี้ วิศวกรที่จะต้องเข้าพบในช่วงเช้ามาครบเรียบร้อยแล้ว โดยยังอยู่ระหว่างการให้ปากคำ ส่วนวิศวกรที่จะต้องเข้าให้ปากคำในช่วงบ่าย จะเริ่มในเวลา 13.30 น.
‘DSI’ เชิญทุกฝ่ายเกี่ยวข้อง ‘โครงการตึก สตง.’ร่วมถก ก่อนเปิดเอกสาร 121 ลัง

พ.ต.ท.อมร เผยอีกว่า ส่วนเรื่องการเปิดเอกสารที่ดีเอสไอ ได้มีการอายัดมาจากตู้คอนเทเนอร์ 26 ตู้ก่อนหน้านี้ ทั้งหมด 121 ลัง จากบริเวณไซต์งานก่อสร้าง สตง. ชั่วคราว ซึ่งในวันนี้จะได้มีการร่วมกันกับผู้แทนกิจการผู้ค้าสัญญา ประกอบด้วย กิจการร่วมค้า ITD-CREC (บริษัท อิตาเลียนไทยฯ และบริษัท ไชน่า เรลเวย์ฯ) ผู้แทนกิจการร่วมค้า PKW และผู้แทน สตง. ร่วมกันเปิดเอกสารและตรวจอย่างละเอียด เนื่องจากเอกสารทั้ง 121 ลังนี้ เป็นเอกสารที่ดีเอสไอตรวจยึดมาจากตู้คอนเทเนอร์ที่พวกเขาเป็นเจ้าของผู้ครอบครอง จึงต้องร่วมกันเปิดพิสูจน์

พ.ต.ท.อมร เผยว่าโดยจะมีเจ้าหน้าที่จากกรมโยธาธิการและผังเมือง เข้าร่วมตรวจเอกสารและแยกรายละเอียดเอกสาร เพื่อวิเคราะห์ว่าเอกสารประเภทใดบ้างที่จะทำการยึดไว้เป็นพยานหลักฐานเข้าสู่สำนวนคดี ส่วนหากเอกสารรายการใดไม่เกี่ยวข้องก็จะส่งคืนให้ ดังนั้น การตรวจเอกสารพร้อมกันนี้ จะทำให้มีการรับรู้รับทราบตรงกัน ลดความสงสัยใด ๆ ส่วนประเด็นของผู้แทน สตง. ที่เข้ามาร่วมตรวจสอบเอกสารในวันนี้ ทราบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ที่เคยไปบริเวณไซต์งานชั่วคราว สตง. และได้ร่วมอายัดเอกสาร ขณะที่บริษัทผู้ออกแบบอย่าง บริษัท ฟอ-รัม อาร์คิเทค จำกัด และบริษัท ไมนฮาร์ทฯ จะยังไม่ต้องร่วมเปิดเอกสารในวันนี้ เนื่องจากเอกสารที่ตรวจยึดมาจากตู้คอนเทเนอร์ ยังไม่พบว่ามีส่วนใดเป็นของบริษัทผู้ออกแบบ

พ.ต.ท.อมร เผยต่อว่า ในการจำแนกเอกสารทั้งหมด 121 ลังนี้ จะต้องมีการคัดแยกว่าเป็นเอกสารที่ตรวจยึดมาจากตู้คอนเทเนอร์ที่ครอบครองโดยใคร โดยเราจะมีการจัดทำรายการจำแนกเอกสารไว้อย่างครบถ้วน ชัดเจน ซึ่งจะทำการเปิดเอกสารพร้อมกันทุกลัง ไม่ได้มีการสุ่มตรวจ หรือเรียงลำดับความสำคัญ เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่โยธาธิการและผังเมือง ได้มีการจัดเจ้าหน้าที่มา 4 ชุด เพื่อดูประเด็นสำคัญ 5 เรื่อง ฉะนั้น จุดการให้น้ำหนักว่าเอกสารใดคือเอกสารรายการสำคัญ ก็จะต้องหารือกับเจ้าหน้าที่โยธาธิการฯ เนื่องจากเอกสารที่จะนำเข้าสู่สำนวนคดี ก็จะถูกใช้โดยเจ้าหน้าที่โยธาธิการฯ เช่นเดียวกัน ซึ่งเจ้าหน้าที่โยธาธิการฯ ที่เข้ามาในวันนี้ ทราบว่าเป็นฝ่ายเลขาฯ จากคณะกรรมการชุดใหญ่

พ.ต.ท.อมร เผยด้วยว่า สำหรับกรอบเวลาในการตรวจสอบเอกสารที่จะถูกใช้เป็นพยานหลักฐานในสำนวนคดี เรายังไม่สามารถกำหนดกรอบเวลาได้ เนื่องจากต้องตรวจสอบและดูรายละเอียดเพิ่มเติม จึงต้องใช้เวลาสักระยะ แต่หากมีส่วนไหนที่เล็งเห็นว่าต้องเชิญเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมาตอบคำถามเกี่ยวกับเอกสาร เราก็จะพิจารณาออกหนังสือเชิญต่อไป อย่างไรก็ตาม เอกสารที่คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษต้องการ อาทิ เอกสารเกี่ยวกับโครงการก่อสร้างทั้งหมด เอกสารเกี่ยวกับการออกแบบงาน เอกสารการควบคุมงาน เอกสารการแก้ไขเปลี่ยนแปลงแบบ และเอกสารเกี่ยวกับวัสดุ.