เมื่อวันที่ 1 พ.ค. ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วย นายชยพล สท้อนดี สส.กทม. พรรคประชาชน แถลงถึงผลการประชุมปฏิบัติการไอโอของหน่วยงานความมั่นคงที่ส่งผลกระทบต่อสิทธิเสรีภาพ ว่า เนื่องมาจากการอภิปรายของ นายชยพล ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมา วันนี้หน่วยงานที่ได้เชิญมาครบ อาจจะขาดเพียงรายบุคคลที่เกี่ยวข้อง ปัญหาที่เราเห็น ผ่านการอภิปรายไม่ไว้วางใจของ นายชยพล มีการสรุปข้อมูลข่าวสารและการกระจายต่อในลักษณะที่เป็นการกล่าวหา และใส่ความเท็จต่อบุคคลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการจัดหมวดหมู่ของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา พรรคกล้าธรรม กลุ่มที่แอบอ้างสถาบันเบื้องสูง รวมไปถึงมีการจัดหมวดหมู่ในกลุ่มต่อต้านสถาบัน อย่างเพจพรรคประชาชน ก็ถูกกล่าวหาว่าอยู่ในกลุ่มที่ต่อต้านสถาบัน

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า สำหรับเอกสารที่หลุดออกมา กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ยอมรับว่าเป็นเอกสารจริงไม่มีข้อโต้แย้ง ไม่มีข้อถกเถียงว่าเอกสารปลอม แต่ก็ปฏิเสธเนื้อหาหมวดหมู่ ว่าเป็นการกระทำที่ผิดพลาดของบางคนใน กอ.รมน. เราไม่ทราบว่าขั้นตอนในการเอาข้อมูล นำมาจากเพจไหนหรือส่วนไหน ไม่มีปรากฏในรายละเอียด ในการตั้งข้อสังเกตและยืนยันว่า ถ้าเป็นความผิดพลาดจริง ก็ต้องมีการลงโทษผู้ดำรงความผิด นำเสนอข้อมูลความผิดปกติของการใส่ร้าย การสร้างความแตกแยกของเอกสาร กอ.รมน. ไม่ได้เกิดแค่ครั้งเดียว แต่เกิดแล้วหลายครั้ง

“จะบอกว่าเป็นความผิดพลาดในหลายครั้ง น่าจะไม่ใช่ แต่ดูเป็นความจงใจที่จะให้เกิดการใส่ร้ายป้ายสีทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นซีกรัฐบาลหรือซีกฝ่ายค้าน เอกสารพวกนี้มีการเปิดเผยใน กอ.รมน. แล้วส่งให้ส่วนกลางลงนาม สามารถเอาผิดได้ทันที ถ้า กอ.รมน. บริสุทธิ์ใจ ไม่เกี่ยวข้องกับการใส่ร้ายป้ายสีเพื่อการแตกแยกทางการเมืองหรือสังคมก็ดี จะต้องมีบุคคลที่ต้องรับผิดในเรื่องนี้” นายรังสิมันต์ กล่าว

นายรังสิมันต์ ยังกล่าวอีกว่า การใช้ไอโอแบ่งเป็นสองส่วน นายชยพล ได้เปิดโปงถึงโครงสร้างคณะทำงานพิเศษ ทบ. บุคคลที่เกี่ยวข้องมีใครบ้าง ข้อมูลส่วนนี้ก็ปรากฏชื่อ พล.อ.ธรรมนูญ วิถี รองผู้บัญชาการทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ เคยเป็นหัวหน้าคณะทำงานพิเศษ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ก็รับว่าคณะทำงานพิเศษ ทบ. มีอยู่จริงแต่ ทบ. ปฏิเสธและยืนยันว่าไม่มีการดำเนินการใดๆ ในลักษณะใส่ร้ายป้ายสีหรือสร้างความแตกแยกทางการเมือง หรือปฏิบัติการไอโอ เราไม่มี ทำเต็มที่คือเผยแพร่ประชาสัมพันธ์งานของกองทัพบกเท่านั้น อาจจะมีการส่งต่อไปอินฟลูเอนเซอร์ ซึ่งเรายังไม่ทราบว่ามีใครบ้าง แต่ยืนยันมีการส่งต่อผ่านนักข่าวที่ติดตามกองทัพอยู่เป็นประจำ และตนได้นำข้อมูลของตนมาชี้แจง

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า สำหรับบัญชีไอโอที่สำคัญมีความเชื่อมโยงกับกองทัพหรือตำรวจ เช่น บัญชีที่ว่าชื่อ เจ๊จุกคลองสาม มีการรายงานจากประเทศแคนาดา ว่าเป็นบัญชีที่เกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่รัฐของไทย ตัวบัญชีเจ๊จุกคลองสาม มีหลักฐานว่าเคยมีโลโก้ไปขึ้นแสดงในหน้าจอ กองทัพบกบอกไม่ได้อยู่ในบัญชีดังกล่าว แต่ยอมรับว่าเป็นข้อผิดพลาด นอกจากนี้ มีการเผยแพร่ข้อมูลและภาพที่ถ่ายตำรวจควบคุมฝูงชน ที่จะเข้าไปได้ต้องเป็นตำรวจเท่านั้น หรือเป็นการถ่ายภาพที่มีการอ้างถึงว่าเป็นม็อบวีโว่ แต่เมื่อดูจากมุมที่ถ่ายต้องเป็นมุมที่มาจากตำรวจเท่านั้น เบื้องต้นได้ถามกับโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปฏิเสธว่าไม่ทราบเรื่องนี้ และกรรมการได้ตั้งข้อสังเกตแล้ว จะต้องตรวจสอบว่าคนที่เป็นเจ้าของบัญชีนี้ ที่มีการนำข้อมูลส่วนบุคคลหรือว่าข้อมูลลับของราชการมาเผยแพร่ ตกลงแล้วเป็นคนในราชการหรือไม่ เป็นคนในสำนักงานตำรวจแห่งชาติหรือไม่ เป็นคนในกองทัพหรือไม่

“สิ่งที่รับกันคือเอกสารของ กอ.รมน. ที่มีการใส่ร้ายป้ายสี ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านเป็นของจริง และจะรับไปดูว่าจะดำเนินการเอาผิดกับคนที่เกี่ยวข้องในการออกเอกสารนี้อย่างไร และรับว่ามีคณะทำงานมั่นคง ที่มีชื่อ พล.อ.ธรรมนูญ วิถี ว่ามีจริง โครงสร้างจริง แต่ปฏิเสธว่ามีการทำ การที่ทุกฝ่ายความมั่นคงปฏิเสธการเข้าไปเกี่ยวข้อง หรือการสร้างปฏิบัติการไอโอ แต่เมื่อปฏิบัติการไอโอเกิดขึ้นแล้ว สร้างความเสียหาย หวังว่าหน่วยงานความมั่นคง จะทำหน้าที่ในการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายอย่างจริงจัง ไม่ใช่ปล่อยให้ปฏิบัติการไอโอเกิดขึ้นต่อไป ท้ายที่สุดจะต้องมีผู้รับผิด” นายรังสิมันต์ กล่าว

นายชยพล กล่าวด้วยว่า กองทัพเข้าให้ข้อมูลหลายด้าน ประเด็นที่น่าสนใจมีหลายเรื่อง เช่น ยอมรับว่าเอกสารแต่ละฉบับเป็นเอกสารจริง ยอมรับว่าคณะทำงานและโครงสร้างต่างๆ เป็นโครงสร้างจริง ยอมรับถึงขั้นไอโอที่เป็นส่วนการประชาสัมพันธ์สายข่าวเป็นเรื่องจริง แต่สิ่งที่ไม่ยอมรับคือ เรื่องที่ไอโอโจมตีให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชนโดยรวม แม้ข้อมูลในเอกสารเดียวกัน แต่ก็มีการรับแค่บางส่วนเท่านั้น เป็นเรื่องที่สังคมต้องตัดสินเอง

นายชยพล กล่าวว่า ส่วนข้อมูลต่างๆ ที่รั่วออกมา เช่น ข้อมูลเจ๊จุ๊กคลองสาม ที่ก่อนหน้านี้เคยเผยแพร่ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลทางการเมือง หน่วยงานที่ชี้แจงก็มาบอกว่าไม่ใช่หน่วยงานโดยตรง แต่เป็นการรั่วไหลของข้อมูลต่างๆ นี่คือเรื่องที่น่ากังวล เพราะข้อมูลเหล่านี้รั่วไหลออกไป ทั้งที่กองทัพบอกมีแนวคิดไปทิศทางเดียวกัน สนับสนุนงานของกองทัพ บุคคลเหล่านี้นำไปใช้โจมตีคนการเมือง สร้างความเกลียดชัง มีการสอบถามว่าหน่วยงานความมั่นคงจะตามมาดำเนินคดีไหม แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบ และหน่วยงานไม่คอนเฟิร์มว่าจะติดตามบัญชีแอคหลุม เป็นรายงานภัยคุกคามภายใน จะมีการระบุถึงแอ๊คชั่นของทางกองทัพที่ไปดำเนินคดีกับผู้ใช้เฟซบุ๊กหลายท่านที่ไม่ใช้ชื่อจริง และรูปมีการโพสต์ไม่เป็นที่พึงประสงค์ของกองทัพ และถูกกองทัพตามเจอ ต้องดูว่าเป็นการเลือกปฏิบัติหรือไม่ เราจะดำเนินคดีและติดตามอย่างจริงจัง และมีการปล่อยข้อมูลให้กับคนที่มีแนวคิดเกี่ยวกับกองทัพใช่หรือไม่ คุณจะมีแนวคิดที่ไปโจมตีบุคคลทางการเมืองหรือโจมตีผู้ที่เห็นต่างจากกองทัพ นี่ไม่ใช่หน้าที่โดยตรง จากการชี้แจงของกองทัพในวันนี้ หลายอย่างทำให้เราต้องลงหลักฐานเพื่อดำเนินการร้องเรียน.