สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม เมื่อวันที่ 3 พ.ค. ว่า ตามรายงานจากหน่วยงานกำกับดูแลการคุ้มครองข้อมูลของไอร์แลนด์ ติ๊กต็อก “ยอมรับ” ระหว่างการสอบสวน ว่ามีการจัดเก็บข้อมูลของผู้ใช้ชาวยุโรปในจีน ซึ่งขัดแย้งกับที่เคยชี้แจง เมื่อเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา ว่าข้อมูลเหล่านั้นถูก “ลบทิ้ง” ในจีน

การตัดสินครั้งนี้ ถือเป็นหนึ่งในการกำหนดค่าปรับสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของอียู และสูงกว่ามติของคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลไอร์แลนด์ (ดีพีซี) เมื่อปี 2566 ซึ่งเคยสั่งปรับติ๊กต็อก 345 ล้านยูโร (ราว 12,895 ล้านบาท) กรณีละเมิดกฎหมายของยุโรป เกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลเด็ก

ดีพีซีกล่าวอีกว่า แพลตฟอร์มยังละเมิดข้อกำหนด ใน “ข้อบังคับทั่วไปว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลของสหภาพยุโรป” หรือจีดีพีอาร์ ด้วยการโอนข้อมูลของผู้ใช้งานในยุโรปไปยังจีน

นอกจากนั้น ติ๊กต็อกไม่ได้กล่าวถึงการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานในยุโรป ที่อาจเกิดขึ้นตามคำขอของทางการจีน ภายใต้กฎหมายต่อต้านการก่อการร้าย การต่อต้านการจารกรรม และกฎหมายอื่นของรัฐบาลปักกิ่ง ซึ่งแพลตฟอร์มอ้างว่า แตกต่างจากมาตรฐานของอียูอย่างมาก

แม้คำพิพากษาดังกล่าวระบุว่า ติ๊กต็อกต้องปฏิบัติตามกระบวนการ “ภายใน 6 เดือน” อย่างไรก็ตาม ไบต์แดนซ์ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงปักกิ่งของจีน และเป็นบริษัทแม่ของติ๊กต็อก เตรียมยื่นอุทธรณ์

ขณะเดียวกัน ไบต์แดนซ์ออกแถลงการณ์โต้แย้งว่า “ไม่เคยได้รับคำขอ” ข้อมูลของผู้ใช้ในยุโรปจากหน่วยงานของจีน และบริษัทไม่เคยให้ข้อมูลใดก็ตามแก่รัฐบาลปักกิ่งแต่อย่างใด.

เครดิตภาพ : AFP

เครดิตภาพ : AFP