ที่ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร อ.ยะรัง จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 10 พ.ค.68 พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม พร้อมด้วยคณะทำงานขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ภาคประชาชน กระทรวงยุติธรรม ประชุมชี้แจงแผนปฏิบัติการ “รวมพลังจิตอาสา เอาชนะยาเสพติดในจังหวัดชายแดนภาคใต้” เพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ให้ร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดที่เป็นบ่อนทำลายชีวิตของพี่น้องประชาชน

โดยมี พล.อ.วิชาญ สุขสง ประธานคณะทำงานขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ภาคประชาชน กระทรวงยุติธรรม พล.ต.วรเดช เดชรักษา รองแม่ทัพภาคที่ 4 / รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า พล.ต.ชาคริต อุจะรัตน รองแม่ทัพภาคที่ 4 / รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 นายนันทพงศ์ สุวรรณรัตน์ รองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ นางพาตีเมาะ สดียามู ผวจ.ปัตตานี นายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย ผวจ.ยะลา ดร.แวดือราแม มะมิงจิ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจ.ปัตตานี บุคลากรจากกระทรวงสาธารณะสุข ผู้นำท้องถิ่น, ผู้นำศาสนา เข้าร่วมประชุม

พ.ต.อ.ทวีกล่าวว่า ยาเสพติดเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของประเทศ ซึ่งทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันแก้ไขอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ พบปัญหารุนแรงและซับซ้อนมากที่สุดในประเทศ จึงกำหนดให้เป็นวาระพิเศษที่ต้องเร่งดำเนินการอย่างจริงจัง โดยเฉพาะปัญหาที่เกี่ยวข้องกับพืชกระท่อม น้ำกระท่อม และกัญชา ล้วนส่งผลกระทบต่อความรู้สึกและความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ การแก้ไขปัญหาต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานภาครัฐ ภาคประชาสังคม และประชาชนในระดับพื้นที่ โดยแผนนี้มีเป้าหมายสำคัญคือ การจัดการกับผู้ค้ารายย่อย ผู้มีอิทธิพล และลดจำนวนผู้เสพซึ่งกำลังเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ โดยเฉพาะน้ำกระท่อม แม้เป็นพืชที่เคยผ่อนคลายทางกฎหมาย แต่ปัจจุบันกลายเป็นปัญหาส่งผลต่อสังคมอย่างรุนแรง

ในระยะยาว จำเป็นต้องมีการทบทวนและปรับปรุงกฎหมาย หรือระเบียบที่เกี่ยวข้องกับพืชกระท่อมและกัญชา ให้เข้มงวดและรัดกุมมากยิ่งขึ้น เพื่อควบคุมการใช้ให้เกิดประโยชน์และไม่สร้างผลกระทบเชิงลบต่อชุมชน

การวัดผลของแผนนี้ จะต้องวัดจากความรู้สึกของพี่น้องประชาชนเป็นสำคัญ ประชาชนต้องรู้สึกปลอดภัย เห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น และผู้ที่ติดยาเสพติดต้องได้รับการบำบัดฟื้นฟูอย่างจริงจังและทั่วถึง