สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม เมื่อวันที่ 14 พ.ค. ว่า แหล่งข่าวยืนยันว่า เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (12 พ.ค.) สมาชิก 27 ประเทศของอียู ได้อนุมัติรายชื่อประเทศที่มีความเสี่ยงต่อการตัดไม้ทำลายป่า โดยการจัดอันดับประเทศทั้งหมด รวมถึงจีน และสหรัฐ ให้มีความ “เสี่ยงต่ำ” ซึ่งเอื้อให้ประเทศเหล่านี้ไม่ต้องถูกตรวจสอบอย่างเข้มงวด

ด้านบราซิลและอินโดนีเซีย ถูกจัดให้อยู่ในประเทศที่มีความเสี่ยงมาตรฐาน ขณะที่ประเทศมีความเสี่ยงสูง ได้แก่ รัสเซีย เบลารุส เกาหลีเหนือ และเมียนมา

กลุ่มสิ่งแวดล้อมโกลบอล วิตเนส โต้แย้งว่า ระบบการวัดประสิทธิภาพของอียูนั้น “ไม่เพียงพอ” เนื่องจากประเทศต่าง ๆ อาทิ บราซิลและปารากวัย ไม่ได้ถูกจัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงสูง ทั้งที่มีมีวิกฤติการณ์ตัดไม้ทำลายป่าในประเทศ

ข้อบังคับดังกล่าว ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในสิ้นปีนี้ สั่งห้ามการนำสินค้าที่ผลิตโดยเกี่ยวข้องกับพื้นดิน ซึ่งมีการตัดไม้ทำลายป่าหลังเดือน ธ.ค. 2563 ครอบคลุมสินค้าหลากหลายประเภท เช่น กาแฟ โกโก้ ถั่วเหลือง ไม้ น้ำมันปาล์ม ปศุสัตว์ กระดาษพิมพ์ และยางพารา

ส่วนบริษัทที่นำเข้าสินค้าเหล่านี้สู่ประเทศอียู ต้องรับผิดชอบติดตามห่วงโซ่อุปทานของตน เพื่อพิสูจน์ว่าสินค้าของตนไม่ได้มาจากป่าไม้ที่ถูกทำลาย โดยอาศัยข้อมูลทางภูมิศาสตร์และดาวเทียม.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES