เมื่อวันที่ 14 พ.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางกอกน้อย รับแจ้งเหตุชายคลุ้มคลั่งจับตัวประกันยิงปืนภายในซอยวัดลครทำ แขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย กทม. จึงประสานหน่วยปฏิบัติการพิเศษอรินทราช 26 บก.สปพ. ทำการปิดล้อมพื้นที่และกั้นไม่ให้ประชาชนเข้าไปในพื้นที่ เนื่องจากผู้ก่อเหตุมีการยิงสวนออกมาจากในซอย ซึ่งเป็นพื้นที่ชุมชน มีบ้านปลูกติดกันอยู่หลายหลัง

รายงานข่าวแจ้งว่า ผู้ก่อเหตุคือ นายณัฐวัชต์ อายุ 31 ปี หรือ “เต้ โอรส” อดีตสมาชิกแก๊งโอรสชื่อดังฝั่งธน โดยเมื่อช่วงเช้าเวลาประมาณ 08.10 น. มีเสียงคล้ายอาวุธปืน เบื้องต้นมีคนอาศัยอยู่ในบ้าน 4 คน แต่อยู่บนบ้านชั้น 2 ล็อกห้องเรียบร้อย ไม่ได้เป็นตัวประกัน ส่วนผู้ก่อเหตุอยู่ชั้นล่าง ก่อนเกิดเหตุมีอาการลักษณะมึนเมา พกอาวุธปืนเข้ามาภายในชุมชนเพื่อมาตามหาแฟนสาว แต่ไม่พบจึงเอะอะโวยวายอาละวาด ประชาชนจึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้าระงับเหตุ

หลังจากที่เจ้าหน้าที่มาถึงที่เกิดเหตุ ตัวผู้ก่อเหตุไม่ยินยอมให้จับกุม โดยใช้อาวุธปืนยิงสวนเจ้าหน้าที่จนต้องถอยออกมา เนื่องจากที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่แคบ เป็นลักษณะชุมชนปลูกติดกันหลายหลัง เกรงว่าจะเกิดอันตรายกับประชาชนในพื้นที่

ด้านภรรยาผู้ก่อเหตุได้ให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนระหว่างเดินทางที่จะไปรับลูกที่โรงเรียนกับตำรวจ ตนเองยอมรับว่า ชายคลุ้มคลั่งเป็นสามีของตนเอง และมีปากเสียงทะเลาะกันได้ประมาณ 4 วัน ซึ่งตัวสามีก็ไม่ได้หลับไม่ได้นอน ยอมรับว่าระหว่างนั้นสามีก็ได้มีการเสพยาเสพติด จึงเกิดอาการคลุ้มคลั่ง จากนั้นภรรยาผู้ก่อเหตุปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลเพิ่มเติม และขอตัวนั่งรถจักรยานยนต์ของทางตำรวจไปรับตัวลูกที่โรงเรียน

นอกจากนี้ ชาวบ้านยังอยู่ภายในบ้านที่เกิดเหตุและมีเพื่อนบ้านข้างเคียงก็ยังอาศัยอยู่ในบ้านที่ติดกันไม่กล้าออกมา เกรงว่าจะได้รับอันตราย

ต่อมา พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. ลงพื้นที่บริเวณจุดเกิดเหตุ เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ด้วยตนเอง พร้อมด้วย พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ชรินทร์ โกพัฒน์ตา รอง ผบช.น. พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.สส.บช.น. และตำรวจฝ่ายสืบสวน บก.น.7 ร่วมกันลงพื้นที่ควบคุมสถานการณ์

พ่อผู้ก่อเหตุ กล่าวว่า นายเต้ มีลูกชาย 2 คน และเอาลูกชายไปฝากให้พ่อเลี้ยงดู 1 คน กำลังเข้าเรียนชั้น ป.1 ที่ผ่านมาลูกชายมีพฤติกรรมยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดมาโดยตลอด และเวลาที่เสพยาเสพติด ก็มักจะมีปัญหากับภรรยา จนทำให้ที่ผ่านมาทั้งคู่เกิดเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกัน จนถึงขั้นลงมือทำร้ายร่างกาย แต่ก็ไม่เคยเกิดเหตุที่ถึงขั้นว่าเอาปืนออกมายิงกันแบบนี้

ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เบื้องต้นตนเองทราบว่าลูกชายได้ทะเลาะมีปากเสียงกับภรรยาอีกครั้ง สาเหตุมาจากการที่ลูกชายเสพยาเสพติดแล้วเกิดอาการหลอน คิดว่าภรรยามีชายอื่น จึงทำให้เป็นต้นเหตุของเรื่องราวที่เกิดขึ้น และติดใจสำหรับอาวุธปืนที่ลูกชายมีไว้ติดตัว ตนเองไม่ทราบว่าลูกชายเอามาจากไหน แต่ถ้าหากการเข้าระงับเหตุในครั้งนี้ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตัวของลูกชายได้มีการยิงปืนออกมาต่อสู้ แล้วสุดท้ายจบด้วยการที่ลูกชายถูกตำรวจวิสามัญ ตนเองก็จะไม่ติดใจเอาเรื่องอะไรทั้งสิ้น ถึงแม้ว่าจะเป็นสายเลือดเดียวกัน แต่ถ้าหากทำผิดก็ต้องว่าไปตามกฎหมาย ไม่เข้าข้างใคร

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวได้สอบถามต่ออีกว่าเพราะเหตุใด พ่อไม่ติดใจเอาความอะไร ทั้งๆ ที่เป็นลูกชายแท้ๆ แบบนี้ โดยคำถามนี้พ่อของผู้ก่อเหตุ ก็ตอบสั้นๆ เพียงว่า “ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเขาเป็นลูกผมหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้ มันมีเหตุการณ์เยอะแยะมากมายภายในครอบครัวเกิดขึ้น”