เมื่อวันที่ 12 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า การขนย้ายสารเคมีที่ตกค้างจากเหตุเพลิงไหม้โรงงานโรงงานผลิตเม็ดโฟมและพลาสติก บริษัท หมิงตี้ เคมีคอล จำกัด ซอย 21 ถนนกิ่งแก้ว ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ว่า วันนี้เป็นวันที่ 3 ของการขนถ่ายสารเคมี สไตรีน ทางบริษัท มหาชนจำกัด อัคคีปราการ ได้นำรถโอโซนแท็งก์ เข้ามาขนถ่ายโดยเริ่มทำการดูดถ่ายสารสไตรีนแต่แต่ช่วงเช้าออกไปได้ 1 คัน ก่อนที่จะหยุดดำเนินการ เพื่อให้รถบรรทุกสิบล้อเข้าไปทำการขนถ่านหินที่ตรวจพบออกจากที่เกิดเหตุส่งไปทำลายที่ จ.สระบุรี และเริ่มดำเนินการดูถ่ายสารเคมีสไตรีน ต่อในช่วง 11.00 น. ที่ผ่านมาควบคู่ไปกับการสูบน้ำเสียที่ปนเปื้อนสารสไตรีน ที่อยู่ในร่องระบายน้ำหน้าบริษัท หมิงตี้ ที่เกิดเหตุและชุมชนรอบข้าง เพื่อจัดส่งไปทำลายที่ ในเครือบริษัท เบต้ากรุ๊ป ซึ่งอยู่ในจังหวัดสระบุรี

ด้าย นายศุภวัฒน์ คุณวรวินิจ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารการตลาด บริษัท มหาชนจำกัด อัคคีปราการ กล่ววว่า วันนี้การทำงานแยกออกเป็น 3 ส่วน ส่วนแรกคือ การดูถ่ายสารเคมีที่ทำเป็นปกติมา 2 วันแล้ว แต่ที่พบปัญหาในเรื่องสารเคมีตอนนี้ปรากฏว่า ตอนแรกที่เข้ามาดำเนินการทีมผู้เชี่ยวชาญแจ้งว่ามีสารเคมีอยู่ 600 ตัน แต่พอไปตรวจสอบเข้าไปตรวจสอบกับกรมควบคุมมลพิษ มาเมื่อวานนี้ (11 ก.ค) ปรากฏว่ามีอยู่ประมาณ 1,100 ตัน ทำให้จากเดินคาดว่าจะใช้เวลา 5 วันในการขนถ่ายสารเคมีออกจากที่เกิดเหตุ อาจจะต้องยืดออกไปเพราะมีปริมาณที่เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว ขณะนี้พยายามปรับแผนที่จะเพิ่มจำนวนรถเพิ่มจำนวนการดูดเพื่อให้การขนถ่ายสารเคมีออกไปให้เร็วที่สุด

นายศุภวัฒน์ กล่าวต่อว่า ส่วนที่ 2 เป็นในส่วนของตัวถ่านหินที่พบเมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) มีกลุ่มควันเกิดขึ้น จึงตักแยกออกไปแล้วแต่ก็ยังไม่หมด วันนี้เต้องเร่งดำเนินการต่อ และในส่วนที่ 3 เริ่มดำเนินการเรื่องน้ำเสียรอบบริเวณโรงงาน คือน้ำเสียที่เกิดจากการดับเพลิง น้ำเสียที่มีการปนเปื้อน สไตรีน และน้ำเสียที่ปนเปื้อนน้ำมัน วันนี้ก็มีการดูดน้ำเสียรอบๆ บริเวณโรงงานและพื้นที่ชุมชนที่เป็นโรงงานและบ้านประชาชนที่อยู่ทางด้านทิศเหนือ เพราะตอนนี้ได้รับการร้องเรียนเข้ามาเยอะมากว่ากลิ่นน้ำเสียเริ่มรุนแรง ซึ่งเป็นน้ำที่มีสไตรีน ปนเปื้อนอยู่ เพราะฉะนั้นวันนี้ก็จะเพิ่มเติมจากดูดสารเคมีก็ต้องดูดน้ำเสียทั้ง 2 จุดนี้ด้วย คือจะแยกกันในการกำจัด คือสารสไตรีน ทางบริษัทอัคคีปราการ จะเป็นผู้ดำเนินการกำจัด ส่วนน้ำเสียก็จะเป็นในเครือ ของบริษัท เบต้ากรุ๊ป อยู่ที่จังหวัดสระบุรี แต่ในการเคลื่อนย้ายทางบริษัท อัคคีปราการ เป็นผู้ดำเนินการทั้งหมด