เมื่อวันที่ 26 พ.ค. ที่รัฐสภา นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมความพร้อมการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ ปี 69 ในวันที่ 28-31 พ.ค.นี้ ว่า ขณะนี้ ฝ่ายรัฐบาลทั้งหมดพร้อม รวมทั้งหมด 324 เสียง พร้อมโหวตแน่นอน ไม่มีปัญหาอะไร ส่วนสัญญาณจากพรรคร่วมรัฐบาลที่ดูไม่ค่อยดีนั้น นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ตนในฐานะวิปรัฐบาล ยืนยันว่า ทุกอย่างพร้อม ไม่มีปัญหาอะไร ช่วงนี้กระแสการเมือง คนอยากให้เป็นอย่างนั้นอย่างนี้ มีคนไปยุแยงบ้าง แต่ขอให้เชื่อมั่นในการทำงาน
เมื่อถามถึงกระแสข่าวการยุบสภา นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า เชื่อว่ายังไม่มีการยุบสภา การผ่านงบประมาณปี 69 เป็นเรื่องสำคัญของประเทศ ไม่ใช่แค่เรื่องเฉพาะของฝั่งใดฝั่งหนึ่ง ปัญหาเกิดขึ้นทั่วโลก ประเทศของเราเอง ก็มีเรื่องแผ่นดินไหวเป็นเรื่องใหญ่ รวมทั้งภาษีทรัมป์ ดังนั้น งบประมาณเป็นเรื่องสำคัญ จึงต้องตัด 1.57 แสนล้านบาท ออกไปกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะจะเห็นว่างบปี 67 ที่ให้งบประมาณไป แต่บางโครงการอยู่ระหว่างจัดซื้อจัดจ้าง จะเห็นว่าการใช้เงินยังไม่เต็มที่ หากช้าไป 2-3 เดือน ก็เป็นปัญหาในทางปฏิบัติ เชื่อว่า ทุกคนอยากให้ประเทศชาติบ้านเมืองไปรอด ไปได้ เชื่อว่าเรื่องเศรษฐกิจเป็นเรื่องใหญ่ และทุกคนจะให้ความร่วมมือในเรื่องนี้
เมื่อถามว่า หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองจะไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องงบใช่หรือไม่ นายวิสุทธิ์ มองว่า ไม่น่ามีอุบัติเหตุทางการเมืองใดๆ ทั้งสิ้น ขณะนี้ยังกินได้ นอนหลับสบาย
สำหรับเรื่องการเตรียมองครักษ์ นายวิสุทธิ์ ระบุว่า การเตรียมองครักษ์ไม่จำเป็นต้องเตรียม สส.เพื่อไทยเตรียมทีมวิชาการ เตรียมอภิปราย เตรียมแผนภาพข้อมูลไว้อยู่แล้ว เชื่อมั่นว่า การจัดสรรปันส่วนเวลา เมื่อลงตัวแล้ว แต่ละพรรคก็จะไปดำเนินการ ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
เมื่อถามถึงกรณีการตั้งข้อสังเกตว่า จะโยกงบที่แต่เดิมเตรียมไว้สำหรับโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ไปกระจายในส่วนอื่น นายวิสุทธิ์ เชื่อว่า รัฐบาลสามารถตอบได้ มีเหตุผลความจำเป็น หลายฝ่ายมองว่ายังไม่ต้องทำ ให้ชะลอไปก่อน แต่การกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นเรื่องเร่งรีบ และเชื่อมั่นว่า ทีมรัฐบาลพร้อมชี้แจงตอบคำถามนี้ได้แน่นอน โดยในการพิจารณาวาระแรกนั้น เราเตรียมเวลาไว้ 40 ชั่วโมง ซึ่งได้หารือกันว่า จะให้ความร่วมมือทุกฝ่าย เพื่อให้อยู่ในเวลาที่เหมาะสม และเพื่อให้ทุกคนที่ดูและติดตามเรื่องงบประมาณได้ประโยชน์ที่สุด จึงพยายามไม่ให้ดึกเกินไป และเชื่อว่า นายกรัฐมนตรี ต้องมาอยู่แล้ว และอาจจะยกทีมมาทำงานที่นี่เลย ซึ่งในวันที่ 28 พ.ค.นั้น คาดว่าจะมาตั้งแต่เวลา 13.00 น.