สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากเมืองนีซ ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. ว่าประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส กล่าวต่อที่ประชุมสหประชาชาติว่าด้วยมหาสมุทร (ยูเอ็นโอซี) ครั้งที่ 3 ณ เมืองนีซ ว่า การระงับการทำเหมืองใต้น้ำเป็น “ความจำเป็นระดับนานาชาติ”

ผู้นำสหรัฐซึ่งผลักดันการทำเหมืองใต้ทะเล ไม่ได้อยู่ในกลุ่มผู้นำ หรือผู้แทนรัฐบาลประมาณ 60 คน ซึ่งเดินทางมาร่วมการประชุมที่เมืองนีซ แต่แผนของทรัมป์ ในการหลีกเลี่ยงกฎระเบียบองค์กรพื้นดินท้องทะเลระหว่างประเทศ (ไอเอสเอ) เพื่อออกใบอนุญาตขุดแร่จากน่านน้ำ นอกเหนือเขตอำนาจศาลของสหรัฐ “ได้ถูกนำมาวิจารณ์ในการประชุม”

ประธานาธิบดีลูอิซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา ผู้นำบราซิล เรียกร้องให้หน่วยงานกำกับดูแลพื้นดินท้องทะเล “ดำเนินการอย่างชัดเจน” เพื่อยุติการแข่งล่าแร่ธาตุในมหาสมุทรลึก และพวกเขาไม่สามารถปล่อยให้ “สิ่งที่เกิดขึ้นกับการค้าโลก” เกิดขึ้นกับทะเลได้

ขณะเดียวกัน มาครงเสริมว่า ทะเลลึก กรีนแลนด์ และแอนตาร์กติกา “ไม่ใช่ของซื้อของขาย” ซึ่งสื่อถึงนโยบายของทรัมป์เช่นกัน

ทั้งนี้ทั้งนั้น ผู้นำฝรั่งเศสเปิดเผยว่า มีผู้ให้สัตยาบันสนธิสัญญาทะเลหลวงแล้ว 55 ประเทศ โดยขาดอีกเพียง 5 ประเทศสำหรับการประกาศใช้ ขณะที่ข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลใช้บังคับในวันที่ 1 ม.ค. 2569

ตามข้อมูลของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) มีผู้ให้สัตยาบันเพิ่มอีก 18 ประเทศ โดยตัวเลขทั้งหมดอยู่ที่ 50 ฉบับ และจะตามมาอีกในอีกไม่กี่วันข้างหน้า.

เครดิตภาพ : AFP