เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. 2568 สถานการณ์น้ำท่วมสร้างความเดือดร้อนอย่างหนักแก่ชาวบ้านหลายครัวเรือนในพื้นที่หนองกุงไทย ต.โนนสะอาด อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ หลังเกิดฝนตกหนักและน้ำป่าจากดงระแนง ไหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่นาข้าวและไร่อ้อย ชาวบ้านชี้ว่าสาเหตุหลักมาจากเอกชนรายหนึ่ง ได้สร้างคันดินปิดกั้นทางน้ำไหลตามธรรมชาติ ทำให้มวลน้ำเอ่อล้นและสร้างความเสียหายในวงกว้างแก่พื้นที่การเกษตร จนต้องนำเรื่องร้องเรียนไปยัง ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอห้วยเม็ก เพื่อขอความช่วยเหลือ

นายกวินพัฒน์ วีระพันธุ์ ปลัดอำเภอฝ่ายศูนย์ดำรงธรรม อ.ห้วยเม็ก พร้อมเจ้าหน้าที่ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบปัญหาร้องเรียน ณ ถนนสาย บ้านหนองกุงไทย ต.โนนสะอาด-บ้านกุดโดน ต.กุดโดน ซึ่งเป็นจุดที่ได้รับผลกระทบ โดยมี นางยุพิน ภูสีนาค อายุ 51 ปี ตัวแทนชาวบ้านหนองกุงไทย หมู่ 6 ต.โนนสะอาด และชาวบ้านผู้ได้รับความเดือดร้อนกว่า 30 คน ให้ข้อมูลยืนยันว่าลำรางสาธารณะหรือร่องน้ำป่าเดิม ถูกเอกชนปิดกั้น ซึ่งเป็นต้นเหตุของปัญหาน้ำท่วม

นายกวินพัฒน์ เปิดเผยว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายของ นายเกียรติศักดิ์ มูลไธสง นายอำเภอห้วยเม็ก ที่ต้องการเร่งแก้ไขปัญหาน้ำท่วมพื้นที่การเกษตร ซึ่งกระทบทั้งนาข้าวและไร่อ้อย โดยได้สอบถามข้อมูลจากทั้งสองฝ่ายที่เกี่ยวข้อง แต่ยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้ในเบื้องต้น

ฝ่ายผู้ร้องเรียน โดยมีนางยุพินเป็นตัวแทน ยืนยันว่าเดิมจุดที่มีข้อพิพาทนั้น เป็นลำรางสาธารณะและทางสาธารณประโยชน์ที่ชาวบ้านใช้ร่วมกันมานานหลายสิบปี และไม่เคยมีปัญหาน้ำท่วมมาก่อน โดยมีสำเนาโฉนดที่ดินมาเป็นหลักฐานอ้างอิง แต่เมื่อประมาณเดือนมีนาคม-เมษายน 2568 เพื่อนบ้านที่อยู่ติดกันได้จ้างรถแบ๊กโฮมาทำคันดินปิดกั้นทางน้ำ ทำให้เมื่อฝนตก น้ำป่าไม่มีทางระบาย จนท่วมนาข้าวและไร่อ้อยของตนและเพื่อนบ้าน

ในขณะที่ นางบุญยัง อายุ 51 ปี เจ้าของที่ดินแปลงที่ทำคันดินกั้นน้ำ กล่าวว่า ที่นาของตนก็เคยประสบปัญหาน้ำท่วมป่าเช่นกัน จึงได้จ้างรถแบ๊กโฮมาทำคันดินในพื้นที่ของตนเพื่อป้องกันน้ำและใช้เป็นพื้นที่สร้างที่พักอาศัยในอนาคต โดยยืนยันว่าเป็นการกระทำในที่ดินส่วนตัว ไม่ได้รุกล้ำลำรางสาธารณะ แม้จะไม่มีเอกสารโฉนดมาแสดงในวันลงพื้นที่ แต่ก็พร้อมที่จะเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยที่ศูนย์ดำรงธรรม

นายกวินพัฒน์ กล่าวทิ้งท้ายว่า เนื่องจากการลงพื้นที่ไม่สามารถยุติข้อพิพาทได้ จึงจะนำผลการตรวจสอบรายงานต่อนายอำเภอ และจะมีการนัดหมายเชิญทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย ณ ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอห้วยเม็ก ในวันข้างหน้า โดยขอให้ทั้งสองฝ่ายนำเอกสารหรือหลักฐานเกี่ยวกับที่ดินข้อพิพาทมาด้วย เพื่อหาทางออกร่วมกันอย่างปรองดองและสมานฉันท์ นำไปสู่การแก้ไขปัญหาน้ำป่าท่วมขังอย่างยั่งยืน