เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย พร้อมคณะ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมราชการจังหวัดอุดรธานี จุดแรก ลงพื้นที่มอบถุงยังชีพ และให้กำลังใจผู้ประสบภัยจากเหตุเพลิงไหม้โกดังขายสินค้า ในตำบลหมากแข้ง อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี ซึ่งเกิดเหตุกลางดึก ของวันที่ 13 มิ.ย. ที่ผ่านมา โดยมีนายราชันย์ ซุ้นหั้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เป็นผู้บรรยายสรุปสถานการณ์ เบื้องต้นจากเหตุการณ์ดังกล่าว มีอาคารได้รับความเสียหาย 3 คูหา รถบรรทุก 6 ล้อและรถปิกอัพรวม 4 คัน รวมทั้งมีผู้ได้รับผลกระทบจำนวน 20 คน เป็นเจ้าของโกดังขายสินค้า และพนักงาน ขณะที่มูลค่าความเสียหายจากการประเมินอยู่ที่ 50 ล้านบาท ส่วนสาเหตุของต้นเพลิงคาดว่า เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร

นายอนุทิน กล่าวว่า โกดังกล่าวเป็นโกดังที่เก็บสินค้า เช่น พลาสติก สาเหตุคาดว่า เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร อาจเกิดจากสภาพเก่า ไม่ได้ซ่อมบำรุง จนเกิดเหตุไฟไหม้วอดทั้งหลัง แต่ก็ยังโชคดีที่เจ้าของมีการทำประกันไว้ วงเงินน่าจะครอบคลุมกับความเสียหาย ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เข้ามาช่วยประสานงาน ส่วนเรื่องการเยียวยาก็มี สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดอุดรธานี เป็นผู้รับผิดชอบ ปัจจุบันได้ประกาศให้เป็นพื้นที่ภัยพิบัติแล้ว

วันเดียวกันนี้นายอนุทิน​ และคณะลงพื้นที่​ตรวจสอบพื้นที่สำหรับการปรับสภาพภูมิทัศน์ของเทศบาลตำบลจำปี อ.ศรีธาตุ จ.อุดรธานี พร้อมกล่าวกับประชาชนถึงค่าป่วยการ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) เพิ่มเป็น 2,000 บาทต่อเดือน ว่า ในสมัยที่โรคโควิด-19 ระบาด ทุกคนทุ่มเทแรงกายแรงใจดูแลประชาชนเต็มที่ ตนจึงตั้งใจเขียนของบค่าป่วยการ เข้า ครม.อย่างเต็มที่ ซึ่งสมัยนั้นมีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ตนบอกว่า อสม.ทุ่มเท หากไม่ได้ อสม.จะหนักมากกว่านี้ จึงขอเถอะ นี่ไม่ใช่เงินเดือนหรือค่าตอบแทน เขาเรียกว่าค่าป่วยการ ไม่ใช่การตอบแทนหน้าที่แต่เป็นการตอบแทนคุณงามความดีและความเสียสละ​ ทั้งนี้พลเอกประยุทธ์ ฟังแล้วพร้อมสอบถาม ครม.คนอื่น ในขณะนั้นสุดท้ายก็ยกมืออนุมัติ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่นายอนุทินและคณะร่วมปลูกต้นไม้แล้วเสร็จ ได้มีคุณยายมายืนกางร่มรอนายอนุทินที่ฝั่งตรงข้ามถนน​  ซึ่งนายอนุทินได้ข้ามถนนไป​ ก่อนที่จะถอดหมวกที่สวมและกอดคุณยายทั้ง​ 2 คน​ ซึ่งนายอดิศักดิ์ แก้วมุงคุณทรัพย์ สส.อุดรธานี​ พรรคไทยสร้างไทย​ ลงพื้นที่ด้วยนั้นได้แนะนำ​เป็นภาษาอีสานว่า “เพิ่นมาหาละเด้อ​ เดี๋ยวท่าน ก็เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปแล้ว​” จากนั้น คุณยาย จึงกล่าวว่า​ มาบ้านเราแล้วก็พัฒนาให้บ้านเราเจริญๆ เด้อ​ นายอนุทินจึงได้สอบถามว่าอายุเท่าใด​ ก่อนที่จะอวยพรให้สุขภาพแข็งแรง​ และให้คุณยา​ยเอิ้นว่า​ “น้องแว่น​” ก็ได้.