สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงอิสลามาบัด ประเทศปากีสถาน เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. ว่า รายงานฉบับใหม่ระบุว่า ปี 2567 เป็นปีที่ร้อนสุดเป็นประวัติการณ์ หรือร้อนเป็นอันดับสองเท่าที่มีการบันทึกไว้ ขึ้นอยู่กับชุดข้อมูล รวมถึงคลื่นความร้อนที่แผ่ขยายและคงอยู่ยาวนาน ซึ่งแนวโน้มความร้อนระหว่างปี 2534-2567 เพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าของช่วงปี 2504-2533

อนึ่ง เอเชียเป็นทวีปที่มีแผ่นดินขนาดใหญ่ที่สุด ทอดยาวถึงภูมิภาคอาร์กติก และร้อนขึ้นเร็วกว่าสองเท่าของค่าเฉลี่ยทั่วโลก เนื่องจากอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นบนพื้นดิน สูงกว่าอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นในมหาสมุทร

เมื่อปี 2567 คลื่นความร้อนปกคลุมพื้นที่มหาสมุทรมากเป็นประวัติการณ์ และอุณหภูมิผิวน้ำทะเลก็อยู่ในระดับสูงสุดเช่นกัน โดยอัตราการอุ่นขึ้นของผิวน้ำทะเลในเอเชีย อยู่ที่ 0.24 องศาเซลเซียสต่อทศวรรษ ซึ่งคิดเป็นเกือบสองเท่าของค่าเฉลี่ยทั่วโลก

นอกจากนี้ พื้นที่มหาสมุทรส่วนใหญ่ของเอเชีย ก็ได้รับผลกระทบจากคลื่นความร้อนในทะเลที่รุนแรงหรือสุดขั้ว ซึ่งเป็นระดับรุนแรงที่สุด นับตั้งแต่เริ่มมีการบันทึกเมื่อปี 2536 โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางตอนเหนือของมหาสมุทรอินเดีย พื้นที่มหาสมุทรติดกับญี่ปุ่น ทะเลเหลือง และทะเลจีนตะวันออก

รายงานระบุเสริมว่า การละลายของธารน้ำแข็งส่วนใหญ่ในภูมิภาคเทือกเขาสูงของเอเชีย ในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่อระดับน้ำทะเล วัฏจักรน้ำในภูมิภาค และเหตุการณ์อันตรายต่าง ๆ เช่น อุทกภัย

ด้านนางเซเลสต์ เซาโล เลขาธิการดับเบิลยูเอ็มโอ กล่าวว่า รายงานสถานะสภาพภูมิอากาศในเอเชีย เน้นย้ำถึงการเปลี่ยนแปลงของตัวชี้วัดสภาพอากาศที่สำคัญ เช่น อุณหภูมิพื้นผิว มวลธารน้ำแข็ง และระดับน้ำทะเล ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อสังคม เศรษฐกิจ และระบบนิเวศในภูมิภาค.

เครดิตภาพ : AFP