นายเสวี่ยเค่อหลายถี จาเค่อเอ่อร์ รองประธานคณะกรรมการถาวรประจำสภาประชาชนแห่งชาติจีน (เอ็นพีซี) และนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร ร่วมเป็นประธานในงาน โดยมีคณะผู้แทนจากรัฐสภาไทย ร่วมงานเลี้ยงครั้งนี้ด้วย


นายเสวี่ยเค่อหลายถี จาเค่อเอ่อร์ กล่าวสุนทรพจน์บนเวทีว่า นับตั้งแต่สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีนและไทย เมื่อ 50 ปีก่อน ไม่ว่าสถานการณ์ระหว่างประเทศจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร จีนและไทยก็ช่วยเหลือและทำงานร่วมกันเสมอมา “จีนไทยใช่อื่นไกล พี่น้องกัน” ได้รับการยอมรับมากขึ้นเรื่อย ๆ กลายเป็นแบบอย่างของความร่วมมือที่ทุกฝ่ายได้ประโยชน์ร่วมกัน และนำประโยชน์ที่เป็นรูปธรรมมาสู่ประชาชนของทั้งสองประเทศ


เมื่อเผชิญกับสถานการณ์ระหว่างประเทศที่เปลี่ยนแปลงไป จีนและไทยได้ดำเนินการตามข้อริเริ่มระดับโลกที่สำคัญ 3 ประการ (ข้อริเริ่มแห่งการพัฒนาโลก ข้อริเริ่มด้านความมั่นคงทั่วโลกและข้อริเริ่มทางอารยธรรมโลก) เพื่อส่งเสริมโลกที่เท่าเทียมและเป็นพหุภาคีนิยม รวมทั้งโลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจที่ครอบคลุม โดยชี้ให้เห็นว่า เราต้องสืบทอดมิตรภาพแห่งยุคสมัย และเสริมสร้างการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือในด้านสื่อ สถาบันวิจัย เยาวชน ฯลฯ ต่อไป


เราเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่า ด้วยความพยายามร่วมกันของทั้งสองฝ่าย มิตรภาพระหว่างจีนและไทย จะก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วและแข็งแกร่งดั่งแม่น้ำแยงซีและแม่น้ำโขง นำประโยชน์มาสู่ประชาชนของทั้งสองประเทศมากขึ้น และมีส่วนสนับสนุนต่อเสถียรภาพและการพัฒนาในภูมิภาคมากขึ้น


นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา กล่าวสุนทรพจน์บนเวทีว่า แสดงความยินดีอย่างยิ่งต่อความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นและมั่นคงระหว่างทั้งสองประเทศ ซึ่งดำเนินการมายาวนานบนพื้นฐานของมิตรภาพอย่างมั่นคง ความไว้เนื้อเชื่อใจ และความร่วมมือรอบด้าน ความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดนี้มีความพิเศษสืบทอดผ่านความสัมพันธ์อันยาวนานกว่าสองพันปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน เมื่อวันที่ 1 ก.ค. 2518 เป็นการวางรากฐานชั้นลึกที่ก่อให้เกิดมิตรภาพความร่วมมือ ความเข้าใจที่ยั่งยืนระหว่างสองประเทศจวบจนทุกวันนี้


ไม่ว่าสถานการณ์โลกระหว่างประเทศจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร แต่มิตรภาพและความร่วมมือระหว่างไทยและจีนไม่เคยสั่นคลอน แต่ได้รับการเสริมสร้างให้แข็งแรงยิ่งขึ้นผ่านความมุ่งมั่นของทั้งสองประเทศ ที่จะขับเคลื่อนการทำงานร่วมกันเพื่อส่งเสริม “หุ้นส่วนความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์อย่างรอบด้าน” และการสร้างชุมชนที่มีอนาคตร่วมกันระหว่างไทย-จีน เพื่อความมั่นคงและยั่งยืนขึ้นด้วยวิสัยทัศน์ที่มุ่งมองไปข้างหน้า โดยมีประชาชนเป็นหลัก

ความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งนี้สะท้อนให้เห็นได้ดีจากวลีที่กล่าวว่า “ไทย-จีน มิใช่อื่นไกล เราคือพี่น้องกัน” ยืนยันความใกล้ชิดฝังรากลึกผ่านความผูกพัน ผ่านสายเลือด วัฒนธรรม ประเพณีและการไปมาหาสู่ระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศ ตลอดห้าทศวรรษที่ผ่านมา ไทยและจีนได้ร่วมกันขับเคลื่อนความร่วมมือในทุกมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ การค้า วัฒนธรรมและความสัมพันธ์ระดับประชาชนก่อให้เกิดความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งเปี่ยมด้วยพลัง


ภายในงาน มีการเปิดตัวซองไปรษณีย์พร้อมแสตมป์ที่ระลึกการฉลองความสัมพันธ์ทางการทูต และการแสดงทางวัฒนธรรมจากหน่วยงานของไทยและจีน เช่น การแสดงนาฏศิลป์ไทยชุด “เทพประทานพร”, การแสดงเดี่ยวระนาดเอก 4 ราง เพลง “ จีน-ไทยสัมพันธ์” จากสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์, การแสดงจากหน่วยงาน China National Ethnic Song And Dance Ensemble และการแสดงนาฏศิลป์จีนร่วมสมัย “จิตวิญญาณแห่งนกยูง”.

ข้อมูล-ภาพ : People’s Daily