เมื่อเวลา 10.25 น. วันที่ 4 ก.ค. ที่กระทรวงมหาดไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย กล่าวมอบนโยบาย ในฐานะเข้ารับตำแหน่ง รมว.มหาดไทย กับหน่วยงานต่างๆ ในกระทรวง และผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ
โดยนายภูมิธรรม กล่าวว่า วันนี้ถือเป็นวันแรกที่ได้เข้ามา ได้รับฟังข้อสรุปในเบื้องต้นของการทำงานที่ผ่านมา ส่วนที่ได้พูดคุยกัน ก็ยินดีและขอบคุณที่ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี และหวังว่าการทำงานต่อไปข้างหน้าของเรา คงจะต้องร่วมไม้ร่วมมือกันในทุกภาคส่วน ทำให้มหาดไทยเป็นหนึ่งเดียวกัน ในการที่จะช่วยกันแก้ไขปัญหาขับเคลื่อนนโยบายต่างๆ ของรัฐบาล และสามารถทำให้ประเทศผ่านพ้นวิกฤติไป เพราะสิ่งที่สำคัญที่ตนได้มาเยี่ยมครั้งที่แล้ว ตนได้บอกไปแล้วว่ากลไกของมหาดไทย ถือเป็นกลไกที่สำคัญเป็นอย่างมาก ทั้งในระดับจังหวัด อำเภอ ทั่วประเทศ และเป็นกลไกที่จะสามารถทำนโยบายดีๆ หรือในสิ่งที่คิดว่าสามารถแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน ตนจึงคิดว่า เป็นเรื่องที่สำคัญ
อีกเรื่องคือ ตนอยากเห็นความเป็นปึกแผ่น ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ที่นี่ไม่มีสิงห์ดำ สิงห์แดง สิงห์ขาว สิงห์เขียว สิงห์ทอง หรือสิงห์น้ำเงิน มีแต่สิงห์มหาดไทย เพราะฉะนั้น ตนไม่นิยมสนับสนุนให้มีลักษณะที่เล่นพรรคเล่นพวก ตนต้องการคนมีความสามารถ ถ้ามีความสามารถอาสาทำงาน จุดสำคัญที่สุดคือต้องทำงานร่วมกันได้ ที่ผ่านๆ มา ต้องมาดูว่าอะไรที่เป็นเรื่องนโยบายที่ต้องชัดเจน ตนคิดว่า หัวใจสำคัญของการบริหารราชการแผ่นดิน ถ้านโยบายออกมาแล้ว ไม่เข้มข้น ไม่ขยับ ไม่ดำเนินการ เป็นสิ่งที่ตนรับไม่ได้ เพราะฉะนั้นไม่ว่าใครก็ตามที่ยังนิ่งเฉย ทำไม่เต็มหน่วย หรือจะเกษียณแล้ว แล้วไม่ทำอะไรเลย ถ้าไม่มีปัญหาสำคัญไม่เป็นไร แต่ถ้ามีปัญหาสำคัญต้องจัดการให้จบ เป็นเรื่องที่ตนนั้นอยากเห็นกระทรวงมหาดไทยเป็นกลไกสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นมิติของชีวิต มิติยาเสพติด การทำงานของมหาดไทยต้องเห็นความเปลี่ยนแปลงความคืบหน้าในช่วงที่ตนมา 3 เดือนแรก และจะวางอย่างไรต่อไปก็ค่อยว่ากัน เพราะก่อนที่ตนจะมาที่มหาดไทย ตนได้ไปจัดการแก้ไขปัญหา เป็นผู้รับผิดชอบเรื่อง Seal Stop Safe ซึ่งเป็นเพียง 14 จังหวัดเท่านั้น
แต่คราวนี้ตนเน้นผู้ว่าราชการจังหวัดทั้งประเทศ เพราะวิกฤติยาเสพติด เป็นวิกฤติที่คนหมดความอดทนแล้ว ต้องเผชิญกับทุกข์ที่เขาไม่ได้ก่อ และอยากจะเรียนว่าไม่ได้พูดเฉพาะใคร เขาบอกว่ายาเสพติดชาวบ้านในหมู่บ้านรู้หมด เขาก็ถามผมว่ารัฐบาลเอาจริงหรือไม่ เขาบอกได้หมดว่าใครขาย ใครสมคบกับข้าราชการ เพราะฉะนั้นวันนี้ต้องหยุด เขาบอกว่าประชาชนรู้หมด ผู้กำกับ นายอำเภอ ผู้ว่าฯ ผู้การ ไม่ค่อยรู้ ตนก็จะมาตรวจสอบดูว่ามันเป็นหน้าที่ของผู้ว่าฯ โดยสำคัญ เพราะเป็นคนที่ควบคุมในจังหวัดทั้งหมด ผู้การจังหวัดเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ต้องควรรู้ และทั้งสายงานเป็นปัญหา โดยภาพรวมที่ผ่านมาเป็นอย่างไรไม่รู้ สำหรับมหาดไทยเรื่องนี้ถือเป็นนโยบายสำคัญที่ต้องผลักดันให้ได้ ซึ่งตนจะดำเนินการร่วมกันกับศูนย์ปราบปรามยาเสพติดทั้งของ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ทหาร ตำรวจ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจัดประชุมกันในวันที่ 14 ก.ค. ซึ่งจะบูรณาการร่วมกับทุกภาคส่วน อีกอย่างหนึ่งตนเป็นรองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง ดูแลทั้งตำรวจ กลาโหม ยุติธรรม และหน่วยงานด้านความมั่นคงทั้งหมด เพราะฉะนั้นในเมื่อทุกอย่างมาอยู่ร่วมกันได้แล้ว ก็ควรจะทำงานให้เป็นเอกภาพ
นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า นอกจากนี้เรื่องที่มีความเกี่ยวพันร่วมกันคือการปราบปรามผู้มีอิทธิพล อาชญากรข้ามชาติ ภัยร้ายแรงทั้งหลายอย่าง ในขณะนี้เท่าที่ได้รวบรวมข้อมูลมาในข้างต้น เรารู้หมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งสืบสาวไปได้ทั้งหมดว่าบัญชีม้าที่เกิดขึ้นผ่านใครไปบ้าง และตอนนี้ตนก็ดูแล คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ใช้กลไกในการสาวเส้นทางการเงิน และเชื่อว่า อีกไม่นานเร็วๆ นี้ ก็จะค่อยๆ ทยอยให้เห็นว่าใครบ้างที่เข้าไปเกี่ยวข้อง ตนจึงอยากให้ข้าราชการกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าฯ นายอำเภอ ผู้ใหญ่ผู้รับผิดชอบในกระทรวงมหาดไทยทุกคน เรื่องนี้ต้องหยุด
นอกจากนั้น ตนเข้าใจในปรัชญาของกระทรวงมหาดไทย วันนี้ที่เราทุกคนได้รับการโปรดเกล้าฯ มา คือได้รับความไว้วางใจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้มาทำงาน ในพระบรมราโชวาทที่มอบให้กับคณะรัฐมนตรีทุกคน ก็ได้พูดชัดเจนว่า ให้มาช่วยดูภัยพิบัติ และช่วยจัดการปัญหาวิกฤติ ดูแลทุกข์สุขของประชาชน เพราะฉะนั้นเรื่องนี้จึงเป็นเรื่องที่สำคัญ
อย่างไรก็ดี ตนเน้นย้ำในประเด็นแรก คือภารกิจสำคัญต้องสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล วันนี้ตนยังไม่ค่อยเห็นเรื่องการเอานโยบายรัฐบาลมาทำให้ทะลุ ประสบความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม เพราะฉะนั้นหน่วยงานกระทรวงต่างๆ และกลุ่มต่างๆ เขามีหน้าที่ที่จะทำหน้าที่เหล่านี้ ให้ประสบความสำเร็จ เรามีเวลาทำไม่ได้มาก เพราะฉะนั้นเราต้องทำตรงนี้ให้เต็มที่ อย่างที่บอกความมั่นคงของประชาชนคือความมั่นคงของรัฐ เพราะฉะนั้นมหาดไทยจะต้องเป็นแกนกลางในการทำงานทุกมาตรการ ความมั่นคงของประชาชน ก็คือความมั่นคงในทุกมิติ ไม่ใช่หมายรวมเฉพาะเรื่องทหาร ตำรวจ การบำบัดทุกข์บำรุงสุขเป็นเรื่องสิ่งรวมกัน