รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล แจ้งว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 13 กรกฎาคม 2564 เห็นชอบมาตรการบรรเทาผลกระทบต่อประชาชน กลุ่มแรงงาน และผู้ประกอบการอันเนื่องมาจากคำสั่ง ศบค. ฉบับที่ 27 โดยมาตรการเร่งด่วน กรอบวงเงิน 3 หมื่นล้านบาท จะช่วยเหลือแรงงานและผู้ประกอบการที่อยู่ใน 10 จังหวัดควบคุมสูงสุดและเข้มงวด

ทั้งนี้การช่วยเหลือจะครอบคลุม 9 สาขา คือ กิจการก่อสร้าง, กิจการที่พักแรมและบริการด้านอาหาร, กิจกรรมศิลปะ ความบันเทิงและนันทนาการ, กิจกรรมบริการด้านอื่น ๆ, สาขาการขนส่งและสถานที่เก็บสินค้า, สาขาขายส่งและการขายปลีก, การซ่อมยานยนต์ สาขากิจกรรมการบริหารและบริการสนับสนุน, สาขากิจกรรมวิชาชีพ วิทยาศาสตร์และกิจกรรมทางวิชาการ และสาขาข้อมูลข่าวสารและการสื่อสาร

โดยแนวทางการช่วยเหลือแยกเป็น ช่วยผู้ที่อยู่ในระบบประกันสังคม มาตรา 33 สัญชาติไทย จะได้รับเงินช่วยเหลือคนละ 2,500 บาท เป็นเวลา 1 เดือน ส่วนนายจ้างจะได้รับการช่วยเหลือตามจำนวนลูกจ้างไม่เกิน 200 คน ในอัตรา 3,000 บาทต่อคน

ขณะที่ผู้ประกันตนตามมาตรา 39 และมาตรา 40 สัญชาติไทย ที่ยังคงประกอบอาชีพอยู่ในปัจจุบัน จะได้รับช่วยเหลือ 5,000 บาท จำนวน 1 เดือน ส่วนผู้ประกอบอาชีพอิสระที่ไม่ได้อยู่ในมาตรา 33, 39 และ 40 สัญชาติไทย ที่ยังคงประกอบอาชีพอยู่ให้เตรียมหลักฐานไปลงทะเบียนเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 40 กับสำนักงานประกันสังคมภายในเดือน ก.ค. 64 เพื่อจะได้รับการช่วยเหลือ 5,000 บาท

พร้อมกันนี้ยังมีการบรรเทาค่าใช้จ่าย ทั้งการลดค่าน้ำประปา และไฟฟ้า ตามประเภทการใช้งาน สำหรับประชาชนและภาคธุรกิจทั่วประเทซ เป็นระยะเวลา 2 เดือน (ก.ค.-ส.ค.64) กรอบวงเงิน 1.2 หมื่นล้านบาท, การช่วยเหลือด้านการศึกษา โดยลดเงินบำรุงการศึกษา ค่าธรรมเนียมการศึกษา ค่าธรรมเนียมการสอน และค่าธรรมเนียมอื่นในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 เป็นกรณีพิเศษ และสุดท้าย คือ การช่วยเหลือด้านการเงินและลูกหนี้ของสถาบันการเงิน โดยให้กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย ธนาคารพาณิชย์ ผ่อนปรนการชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ย หรือการเลื่อนงวดการชำระเงินต้นและดอกเบี้ยให้ลูกค้าด้วย