จากกรณีเกิดคลัสเตอร์ใหญ่ ภายในศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 7 ซึ่งตั้งอยู่บ้านไพรสะเดา หมู่ 2 ต.ดอนทราย อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี มีนักเรียนนายสิบติดเชื้อโควิด-19 รวม 202 คน ในจำนวนนี้มีแม่ครัวติดเชื้อด้วย 3 คน ท่ามกลางความสงสัยว่าติดเชื้อมาได้อย่างไร เนื่องจากนักเรียนทั้งหมดไม่ได้ออกไปไหนกว่า 5 เดือน ทำให้ทางศูนย์ฝึกฯ ใช้วิธีตัดระบบแม่ครัวออกไป และใช้การสั่งข้าวกล่องมาส่งแทน เพื่อลดการเสี่ยงติดเชื้อเพิ่มเติม ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

เป็นเรื่องแล้ว! นักเรียนตำรวจภูธรภาค 7 ติดเชื้อโควิดเกือบ 200 คน ทั้งที่ไม่ได้ออกไปไหน

ล่าสุด เมื่อวันที่ 23 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้ปกครองของนักเรียนนายสิบตำรวจเดินทางมาที่หน้าศูนย์ฝึกฯ เพื่อขอทราบอาการและความเป็นอยู่ของบุตรหลาน หลังทราบว่ามีคลัสเตอร์เกิดขึ้นภายในศูนย์ฯด้วยความเป็นห่วง โดยมี พล.ต.ต.ปรีดา อิ่มเจริญ ผบก.ศฝร.ภ.7 นพ.พิสุทธิ์ คงขำ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดราชบุรี และ นพ.ประเสริฐ ฉัตรวิชชานนท์ ผอ.รพ.ปากท่อ  จ.ราชบุรี มาให้ข้อมูลกับบรรดาผู้ปกครองของนักเรียนซึ่งไม่พอใจกับการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ภายในศูนย์ฝึกฯ ที่ไม่ให้ข้อมูลเรื่องของอาการป่วยและความเป็นอยู่ของบุตรหลาน รวมทั้งจะมาขอรับบุตรหลานกลับไปดูแลรักษาและกักตัวเอง เนื่องจากมีศักยภาพเพียงพอ และที่ผ่านมาก็ไม่สามารถที่จะติดต่อกับบุตรหลานได้มานานกว่า 5 เดือนแล้ว เกรงว่าหากยังปล่อยให้บุตรหลานอยู่รวมกันภายในศูนย์ฝึกฯ ต่อไป อาจจะติดเชื้อโควิดทั้งหมด

นพ.ประเสริฐ กล่าวว่า ขณะนี้มีผู้ป่วยทั้งหมด 202 ราย ซึ่งอยู่ในระหว่างการกักตัวและอาการไม่รุนแรง ซึ่งตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ได้แอดมิททั้งหมด 9 ราย อาการคือมีไข้ หายใจแน่นหน้าอก แต่ระดับออกซิเจนในเลือดอยู่ในระดับที่ดี สำหรับนักเรียนทั้งหมดได้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เข็มแรกที่ศูนย์จังหวัดนครปฐม และมาฉีดเข็มสองที่ศูนย์ฝึกฯ ส่วนเข็มสามบางคนได้รับการฉีดแล้ว แต่บางคนก็ยังไม่ได้ฉีด และได้วางแผนว่าจะฉีดให้หลังจากการกักตัว ซึ่งปัจจุบันยังไม่ทราบว่าเชื้อมาจากทางไหนต้องรอสรุปผลอีกครั้ง ซึ่งครูฝึกนั้นอยู่ในสถานที่ฝึกตลอด แต่ทางแม่ครัวได้มีเดินทางไปกลับ ความเป็นไปได้ที่ทางแม่ครัวจะนำเชื้อมาแพร่นั้นอยู่ในขั้นตอนการสอบสวนโรค ส่วนการจะนำตัวนักเรียนไปรักษาเองนั้น อยากให้ชั่งน้ำหนักในการควบคุมป้องกันโรค เมื่อเด็กออกมาข้างนอกวินัยในการรับผิดชอบของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ซึ่งอาจจะนำเชื้อไปแพร่ต่อข้างนอกได้

ด้าน ผู้ปกครองนักเรียนนายสิบตำรวจรายหนึ่ง กล่าวว่า กลุ่มผู้ปกครองอยากจะมาเรียกร้องและขอความชัดเจนกับทางศูนย์ฝึกฯ ว่า เด็กที่ติดโควิด-19 กับเด็กที่ไม่ติดเชื้อ มีวิธีดูแลอย่างไร และอยากนำบุตรหลานไปรักษาเอง เพราะจะได้แบ่งเบาภาระให้กับครูฝึกทุกท่าน ซึ่งศักยภาพของผู้ปกครองเต็มร้อย แต่ยังไม่ได้คำตอบที่ชัดเจนจากศูนย์ฝึกฯ และได้คำตอบอีกหลายๆ อย่างที่ไม่พอใจ ขณะนี้ก็ยังติดต่อลูกหลานไม่ได้ และเหตุที่อยากจะรับลูกหลานกลับไปรักษา เพราะว่าไม่มั่นใจในการดูแล ที่เราเรียกร้องคือสวัสดิการเป็นอย่างไร ฝนตกนอนเต็นท์มันไม่สมควร ศูนย์พักคอยจริงๆ แล้ว จะต้องมีเตียง มีกระติกน้ำร้อนด้วย