วานนี้ (30 พ.ย.) ทวิตเตอร์อิงค์ หนึ่งในบริษัทโซเชียลมีเดียรายใหญ่ของโลกประกาศห้ามการแชร์คอนเทนต์ที่มีข้อมูลส่วนตัวของบุคคลอื่น นอกเหนือจากเจ้าของโพสต์ เช่น เบอร์โทรศัพท์ ที่อยู่และเลขประจำตัวบัตรประชาชน 

“เมื่อเราได้รับแจ้งเตือนจากตัวบุคคลหรือจากตัวแทนที่ได้รับมอบหมายอำนาจอย่างถูกต้อง ว่าพวกเขาไม่ยินยอมให้มีการแชร์ภาพถ่ายหรือวิดีโอคลิปส่วนตัวของพวกเขาออกไป เราจะทำการลบคอนเทนต์นั้น” ทวิตเตอร์แถลงในโพสต์ล่าสุดบนบล็อกทวิตเตอร์

แต่ข้อห้ามดังกล่าวได้รับการยกเว้นในกรณีของบุคคลสาธารณะ ถ้าหากภาพ วิดีโอคลิปหรือโพสต์ดังนั้นเป็นประโยชน์ต่อสาธารณชน โดยทวิตเตอร์กล่าวว่าจะพิจารณาบริบทในการแชร์คอนเทนต์ร่วมด้วย 

อย่างไรก็ตาม คอนเทนต์ดังกล่าวก็อาจโดนลบทิ้งได้ ถ้าหากมีการแชร์ออกไปเพื่อกระทำการข่มขู่ ดูถูกเหยียดหยาม หรือทำให้บุคคลที่ปรากฏในสื่อได้รับความเสียหาย

สำหรับคอนเทนต์ที่เปิดให้เข้าชมได้แบบสาธารณะ ถ้าหากมีการแชร์ออกไปเพื่อเป็นข่าวหรือมีลักษณะที่ช่วยเสริมประโยชน์แก่สาธารณชน ก็อาจจะได้รับอนุญาตให้คงไว้บนแพลตฟอร์มได้ โดยทวิตเตอร์ชี้แจงว่าคนที่แชร์คอนเทนต์ซึ่งมีข้อมูลส่วนตัวของบุคคลอื่นเพื่อขอความช่วยเหลือในกรณีที่บุคคลนั้นตกอยู่ในอันตราย ย่อมสามารถทำได้

ทวิตเตอร์อธิบายว่า นโยบายดังกล่าวเป็นไปเพื่อป้องกันการทำร้ายจิตใจและความรู้สึกของผู้ใช้งานบนแพลตฟอร์ม นโยบายเดิมก็ห้ามการแชร์ข้อมูลที่พักอาศัยและหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชนและข้อมูลที่สุ่มเสี่ยงอื่น ๆ อยู่แล้ว ส่วนการเปิดเผยข้อมูลเรื่องอายุ อาชีพ ภาพถ่ายหน้าจอของระบบส่งข้อความ ถือว่าไม่ขัดต่อข้อห้าม

นอกจากนี้ทวิตเตอร์ยังห้ามโพสต์ภาพเปลือยของบุคคลโดยไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าตัว และหากต้องการรายงานผู้ใช้งานที่ละเมิดข้อห้ามเหล่านี้ ก็สามารถทำได้อย่างง่ายดาย เพียงเลือกคำสั่งรายงานโพสต์และเลือกตัวเลือกที่ระบุว่า “มีข้อมูลส่วนบุคคล”

แหล่งข่าว

https://www.cnet.com/tech/services-and-software/twitter-bans-sharing-photos-video-of-people-without-their-consent/

เครดิตภาพ : Reuters