เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊กระบุข้อความว่า “15 ธันวาคม 2564 เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 590,465 คน ตายเพิ่ม 6,935 คน รวมแล้วติดไปรวม 271,690,298 คน เสียชีวิตรวม 5,336,072 คน 5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ อเมริกา ฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร เยอรมนี และรัสเซีย

จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชีย ยุโรป และอเมริกาเหนือ ซึ่งรวมกันคิดเป็นร้อยละ 92 ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็นร้อยละ 96.46 ล่าสุดจำนวนติดเชื้อใหม่จากทวีปยุโรปนั้นมากถึงร้อยละ 61.05 ของทั้งโลก ส่วนจำนวนเสียชีวิตเพิ่มคิดเป็นร้อยละ 61.12 เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรปครอง 7 ใน 10 อันดับแรก และ 15 ใน 20 อันดับแรกของโลก

สำหรับสถานการณ์ไทยเรา เมื่อวานติดเชื้อเพิ่ม 2,862 คน สูงเป็นอันดับ 33 ของโลก หากรวม ATK อีก 2,471 คน ก็ขยับเป็นอันดับ 22 ของโลก ยอดรวม ATK จะเป็นอันดับ 5 ของเอเชีย

อัพเดท Omicron เมื่อคืนนี้ Dr.Tedros Adhanom Ghebreyesus ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก เผยแพร่วิดีโอเตือนให้ทุกประเทศได้ทราบว่า วิกฤติการระบาดของ Omicron ตอนนี้เป็นไปอย่างรวดเร็วมากกว่าสายพันธุ์อื่นที่เคยเจอมา วัคซีนเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอที่จะนำพาเราพ้นวิกฤติ สิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง และต้องทำไปควบคู่กันอย่างสม่ำเสมอคือ การใส่หน้ากาก เว้นระยะห่างจากคนอื่น ระบายอากาศในสถานที่ต่างๆ และล้างมือ

โอกาสเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบจากวัคซีน และจากการติดเชื้อโควิด-19 Patone M และคณะ จากมหาวิทยาลัย Oxford สหราชอาณาจักร ได้ตีพิมพ์งานวิจัยที่ทำการทบทวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตั้งแต่ 1 ธันวาคม 2020 ถึง 24 สิงหาคม 2021 ติดตามดูประชากรในสหราชอาณาจักรจำนวนกว่า 38 ล้านคน ที่ได้รับการฉีดวัคซีน Astrazeneca, Pfizer/Biontech และ Moderna โดยเปรียบเทียบว่าเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ เยื่อบุหัวใจอักเสบ หัวใจเต้นผิดจังหวะ จนต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลมากน้อยเพียงใดในช่วง 28 วันหลังฉีดวัคซีน และเทียบกับโอกาสที่เกิดขึ้นในคนที่ติดเชื้อโควิด-19 ด้วย

โดยสรุปแล้ว พบว่า เรื่องกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบนั้น หากติดเชื้อโควิดจะเกิดได้ถึง 40 คนต่อ 1,000,000 คน ในขณะที่เกิดในกลุ่มที่ฉีดวัคซีนเข็มแรก (Astra 2, Pfizer 1, Moderna 6) และเกิดในกลุ่มที่ฉีดวัคซีนเข็มที่สอง Moderna ราว 10 คนต่อ 1,000,000 คน โดยหากพิจารณาในกลุ่มคนที่อายุน้อยกว่า 40 ปี พบได้ใน Pfizer ราว 2 และ 3 คนต่อ 1,000,000 คน และ Moderna 8 และ 15 คนต่อ 1,000,000 คน สำหรับเข็มแรกและเข็มสองตามลำดับ งานวิจัยนี้ย้ำให้เห็นว่า ความเสี่ยงที่เกิดจากการติดเชื้อโควิด-19 นั้นสูงกว่าจากวัคซีน”..

ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบ : Thira Woratanarat