เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. นายรัชพล ศิริสาคร ทนายความ พร้อม นายไชย์พล วิภา หรือลุงพล ได้เดินทางมาที่ศาลจังหวัดมุกดาหาร เพื่อยื่นเอกสารขอถอนตัวเป็นทนายความของลุงพล โดยทนายรัชพล เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ยื่นเอกสารแล้ว แต่ทางศาลระบุว่ายังสั่งไม่ได้ จนกว่าจะมีการแต่งตั้งทนายความคนใหม่ก่อน ซึ่งลุงพล สามารถที่จะถอนทนายความได้อยู่แล้ว โดยที่ทนายเก่าไม่จำเป็นต้องยื่นถอน ฉะนั้นพอลุงพลตั้งทนายใหม่ สามารถเขียนคำร้องได้เลยว่าขอถอนทนายเก่า

ทนายรัชพล กล่าวต่อว่า ส่วนทางทนายจะกลับมาดูแลคดีอีกไหม ตามมารยาททนายความ ถ้ามีทนายความทีมใหม่เข้ามาก็จะไม่ยุ่งในคดี ซึ่งเคยได้บอกในยูทูบแล้ว ถ้าหากลุงพลยังไม่มีทนาย ก็เป็นเรื่องยากที่จะถอนทนายได้เลย โดยได้บอกเจ้าหน้าที่แล้วว่า ลุงพลมีทนายใหม่แล้ว พร้อมกับนำเรียนท่านผู้พิพากษา ท่านบอกทำเรื่องเข้ามาก่อนจะสั่งในคราวเดียวกันเลย และในวันนี้ได้ยื่นเอกสารเพิ่มเติม ที่ถอนทนายเป็นเรื่องเอกสารที่ศาลสั่ง ทางทีมทนายชุดเก่าทำมาให้เสร็จ ทำมาว่าพยานแต่ละคนสำคัญอย่างไร ทำมาแล้วทั้ง 32 ปาก อีกหนึ่งคือเอกสารที่เป็นคำให้การของจำเลย พอดีทางโจทก์ร่วมเรียกค่าเสียหายมา 10 ล้านกว่าบาท ซึ่งเราเห็นว่าเป็นการเข้าข่ายใช้สิทธิโดยไม่สุจริตก็เลยมีหนังสือยื่นต่อศาลไป ขอปฏิเสธและขอให้ศาลมีคำสั่งให้ทางโจทก์ร่วมขอให้ทางศาลเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากทางโจทก์ร่วมด้วย ซึ่งตรงนี้แม่น้องชมพู่เขาไปปรึกษาใครก็ไม่รู้ ถ้าหากว่าแม่น้องชมพู่ ถูกเรียกเก็บค่าธรรมเนียม ทางที่ปรึกษาน่าจะเข้ามามีส่วนรับผิดชอบด้วยในเงินจำนวนนี้ ซึ่งจำนวนเงินสูงสุด 200,000 บาท ไม่ทราบว่าศาลจะสั่งได้เกินค่าธรรมเนียมหรือเปล่า เพราะว่าศาลมีอำนาจสั่ง 200,000 หรือต่ำกว่านี้ก็ได้ ถ้าหากว่าเป็นการใช้สิทธิไม่สุจริต

ด้านนายไชย์พล หรือลุงพล กล่าวว่า หลังจากทนายความถอนตัวก็ใจหายเหมือนกัน ที่ผ่านมาทางทนายก็ได้ลงพื้นที่หลายเดือนแล้ว ทั้งนี้เคารพการตัดสินใจของทีมทนายที่มีความคิดเห็นไม่ตรงกัน ก็คงจะหาทีมงานทนายคนใหม่เข้ามา ก็ขอขอบคุณทางทีมทนายตั้มที่คอยช่วยเหลือลุงกับป้ามาโดยตลอด หลังจากวันนี้ก็จะเป็นเรื่องของลุงกับป้า ที่จะหาทีมทนายที่มาทำคดีให้ต่อไป

“ส่วนเรื่องความรู้สึกส่วนตัวไม่ว่าจะเป็นทางทนายเอง หรือลุงเองก็รู้จักกันมาพอสมควร การที่จะมีบุคคลอื่นที่มาพาดพิงอุปนิสัยของลุง และพูดจาที่ไม่เชื่อฟังผู้ใหญ่ มันก็เป็นสิทธิที่จะพูด เรากับทนายตั้มทำงานร่วมกันมาว่าอะไรคืออะไร ไม่อยากไปพาดพิงถึงบุคคลที่ 3 และเคารพในการตัดสินใจของท่าน ส่วนเรื่องทนายความคนใหม่ก็ได้ปรึกษาไว้แล้ว แต่ก็อยากให้ทีมทนายเก่าทำงานจนนาทีสุดท้ายก่อน ให้เกียรติทีมทนายเก่า ส่วนทนายใหม่ไม่เกินอาทิตย์หน้า ไม่กังวลก็จะสู้ไปตามหลักฐานที่มี นัดหน้า 8 มี.ค. 65 ส่วนตัวมีความเครียดอยู่บ้าง ก็จะสู้กับสิ่งที่ไม่ได้กระทำ สู้มาเป็นปีแล้ว ต่อไปก็เป็นขั้นตอนกระบวนการของศาล ที่จะต้องให้ความเคารพ เรื่องบางอย่างมานำเสนอต่อสาธารณชนไม่ได้ ก็ต้องต่อสู้ในชั้นศาลเท่านั้น ส่วนที่ทนายใหม่จะมีการแถลงหรือไม่นั้น จะแจ้งสื่อมวลอีกครั้งหนึ่ง” ลุงพล กล่าว