เมื่อวันที่ 10 ม.ค. ที่กระทรวงสาธารณสุข​ (สธ.) นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า การแพร่ระบาด ในปี 2565 ส่วนใหญ่จะเป็นสายพันธุ์โอมิครอนทั่วโลกวันนี้ ติดแล้วกว่า 307 ล้านคน ตัวเลขการติดเชื้อรายวันมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในระยะนี้ แต่อัตราการเสียชีวิต 3,189 ราย จะเห็นว่าสถานการณ์เปอร์เซ็นต์การเสียชีวิตลดลง สำหรับประเทศไทย สถานการณ์คล้ายกับสถานการณ์โลกมีการติดเชื้อเพิ่มขึ้นแต่อัตราการเสียชีวิตลดลง ดังนั้นโรคนี้ติดเชื้อง่ายแต่การทำอันตรายกับชีวิตและลดความรุนแรงลงไปมาก ผู้ติดเชื้อมีอาการรุนแรงอยู่ในทิศทางขาลง กลุ่มที่เสียชีวิตยังเป็นกลุ่ม 607 อายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไปมีโรคเรื้อรัง โดยคนที่เสียชีวิตวันนี้ 13 ราย 100% คือกลุ่มเสี่ยง และในจำนวนนี้ ไม่ได้รับวัคซีนถึง 77% ดังนั้นจึงขอเชิญชวนร่วม 607 เข้ามารับวัคซีนเพื่อป้องกันการป่วยหนักและเสียชีวิต

นพ.เกียรติภูมิ กล่าวต่อว่า ยุทธศาสตร์ปี 2565 คือการชะลอการระบาดให้มากที่สุด เพราะหากปล่อยให้ระบาดมากจะทำให้เกิดการล้นหรือโหลดระบบสาธารณสุข อาจจะทำให้เกิดเชื้อกลายพันธุ์ได้อีก​ ดังนั้นเราต้องชะลอการระบาดและค่อยๆ รับมือ และเดินหน้าฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมทั้งเข็ม 3 เข็ม 4 ซึ่งปัจจุบัน มีวัคซีนเพียงพอ นอกจากนี้การตรวจคัดกรองด้วย ATK ของประชาชนก็ขอความร่วมมือหากไปในสถานที่เสี่ยงมาอาจจะตรวจด้วยตัวเองที่บ้านซึ่งขณะนี้ ราคาไม่แพง 35-40 บาทหรืออาจจะไปขอรับการตรวจที่คลินิก ที่โรงพยาบาลก็ได้ ขณะที่กระทรวงสาธารณสุข​ ก็จะเฝ้าระวังสายพันธุ์ต่อไป ทั้งนี้เนื่องจากโรคไม่ได้มีความรุนแรงก็จะเน้นการรักษาที่บ้านและชุมชน และมีระบบสนับสนุนด้านยาเวชภัณฑ์หากอาการรุนแรงก็สามารถมีช่องทางด่วนเข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลต่อได้ ซึ่งวันนี้สายด่วนได้พัฒนาให้มีได้ทุกจังหวัดแล้ว อย่างไรก็ตามขอให้ประชาชนป้องกันตัวเองสูงสุดสม่ำเสมอตลอดเวลาต้องนึกถึงว่าอาจจะมีคนข้างตัว เกิดการติดเชื้ออยู่อาจจะแพร่เชื้อส่วนตัวเราได้​ ดังนั้นจะต้องระมัดระวังตัวตลอดเวลา รักษาระยะห่าง ใส่หน้ากากเสมอ ล้างมือด้วยน้ำสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์

“คาดว่าปีนี้เราจะเข้าสู่การเป็นโรคประจำถิ่นและจะสามารถดำเนินกิจกรรม กิจการได้ดีขึ้น ขอความร่วมมือทุกภาคส่วนประชาชนผู้ประกอบการในการร่วมมือร่วมใจ ฉีดวัคซีนโดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง 607 เพื่อให้มีภูมิและลดอัตราการป่วยหนัก เสียชีวิตลง พยายามป้องกันตัวเองทุกที่ทุกเวลา สถานประกอบการต่างๆ​ จะต้องมีมาตรการ covid free setting และในระยะการระบาดนี้จะเน้นการตรวจ ATK เป็นหลัก จากการศึกษาจากการใช้หลายล้านชิ้นพบว่ามีประสิทธิภาพสามารถดักจับโรค covid-19 ได้ดีมากทีเดียว​ สามารถตรวจประจำได้เพื่อป้องกันการติดเชื้อไม่ให้เกิดการระบาด และต่อไปสามารถใช้เป็นประจำ” นพ.เกียรติภูมิ กล่าว