กรณี พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผบช.สอท. แถลงผลการจับกุมขบวนการหลอกขายไอโฟน ผ่านอินสตาแกรม (ไอจี) เป็นเหตุให้เหยื่อเด็กชายวัย 14 ปี ที่ถูกหลอกเครียดจนเส้นเลือดในสมองแตกเสียชีวิต โดยกลุ่มผู้ต้องหาอ้างว่า รับจ้างเปิดบัญชีให้ น.ส.พิยดา ทองคำพันธ์ อายุ 19 ปี นายทุนที่เปิดร้านค้าออนไลน์ มีผู้ติดตามประมาณ 60,000 คน​ มีพฤติกรรมชอบใช้ของแบรนด์เนมใช้ชีวิตหรูหรา ซึ่งเงินส่วนใหญ่ที่ได้มาก็มาจากการฉ้อโกงผู้อื่น จึงถูกศาลจังหวัดเชียงใหม่ออกหมายจับเลขที่ 638/64 ลงวันที่ 24 ก.ย.64 ข้อหาฉ้อโกงประชาชน และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ต่อมาถูกเจ้าหน้าที่ ไล่ติดตามยึดอายัดทรัพย์มาตลอด ​ตามข่าวที่นำเสนอมาอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น

ด่วน! ‘พิยดา’หลอกขายมือถือเด็ก14 โผล่มอบตัวตร.เชียงใหม่ คุมตัวสอบเครียด

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 11 ม.ค. พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ปิงเมือง เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน​ (ปปง.) เปิดเผยว่า วันนี้ที่ประชุมคณะกรรมการธุรกรรมมีมติให้สำนักงาน ปปง. ส่งเรื่องให้พนักงานอัยการยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้นำทรัพย์สิน น.ส.พิยดา ทองคำพันธ์ กับพวก ที่ ปปง.ยึดและอายัดไว้ตามคำสั่งคณะกรรมการธุรกรรมที่ ย.167/2564 แล​ะ​ ย.173/2564 จำนวน 33 รายการ ได้แก่ เงินสด, โทรศัพท์เคลื่อนที่, ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง เงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร รถยนต์ยี่ห้อ BMW, ตู้นิรภัย, กระเป๋า เข็มขัด และตะกร้าหวายแบรนด์เนม รวมมูลค่าทั้งสิ้นประมาณ 10,998,064.85 บาท (สิบล้านเก้าแสนเก้าหมื่นแปดพันหกสิบสี่บาทแปดสิบห้าสตางค์) พร้อมดอกผล คืนหรือชดใช้คืนให้แก่ผู้เสียหาย แทนการขอให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินตามมาตรา 49 วรรคหก แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 โดยเป็นผู้เสียหายตามคำสั่งคณะกรรมการธุรกรรมที่ ย. 167/2564 จำนวน 37 ราย และผู้เสียหายตามคำสั่งคณะกรรมการธุรกรรมที่ ย.173/2564 จำนวน 9 ราย

‘พิยดา’ซีดเพิ่ม! โดนตามยึดทรัพย์อีก บีเอ็ม X1 กับเงิน 7 แสน ที่ใช้ประกันตัว

ทั้งนี้ ในการประชุมคณะกรรมการธุรกรรม ครั้งที่ 11/2564 เมื่อวันที่ 9 พ.ย. 64 คณะกรรมการธุรกรรมได้มีมติให้สำนักงาน ปปง. ส่งเรื่องให้พนักงานอัยการพิจารณายื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้นำทรัพย์สินรายคดีดังกล่าวตามคำสั่งคณะกรรมการธุรกรรมที่ ย.167/2564 คืนหรือชดใช้แก่ผู้เสียหายแทนการสั่งให้ทรัพย์สินดังกล่าวตกเป็นของแผ่นดินด้วยในคราวเดียวกันตามมาตรา 49 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 จำนวน 55 ราย ทำให้มีผู้เสียหายที่ได้รับการคุ้มครองสิทธิในรายคดีนี้ ทั้งสิ้น 101 ราย