สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 12 ม.ค.ว่าคณะผู้เชี่ยวชาญด้านการให้คำปรึกษาเชิงกลยุทธ์ ขององค์การอนามัยโลก ( ดับเบิลยูเอชโอ ) เผยแพร่แถลงการณ์ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เกี่ยวกับวัคซีนโควิด-19 ซึ่งใช้งานกันอยู่ในปัจจุบัน ยังคงทำงานได้ดีเพื่อบรรเทาความเสี่ยงของการป่วยหนักและการเสียชีวิต

อย่างไรก็ตาม ในอนาคตอาจต้องมีการปรับเปลี่ยนหรือปรับปรุงส่วนผสมบางอย่าง เพื่อให้สอดคล้องกับระดับของส่วนประกอบวัคซีน ตามมาตรฐานของดับเบิลยูเอชโอ ในการให้วัคซีนมีประสิทธิภาพเพียงพอต้านทานกับบรรดาเชื้อไวรัส “ที่เป็นสายพันธุ์น่าวิตกกังวล”


ทั้งนี้ วัคซีนโควิด-19 “ที่มีประสิทธิภาพ” ตามนิยามของดับเบิลยูเอชโอ ต้องสามารถกระตุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้อย่างครอบคลุม แข็งแกร่ง และยืนยาว “เพื่อลดความจำเป็นของการต้องฉีดวัคซีนซ้ำ” ดังนั้น การวางแผนยุทธศาสตร์ด้านวัคซีนที่อ้างอิงจากการต้องฉีดวัคซีนซ้ำจากวัคซีนดั้งเดิม อาจไม่เหมาะสมและไม่ก่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ยั่งยืน


กระนั้น แถลงการณ์ฉบับนี้ยังไม่ได้ระบุอย่างตรงไปตรงมา เกี่ยวกับการพัฒนาวัคซีน “อย่างจำเพาะเจาะจงกับเชื้อโอมิครอน” โดยให้เหตุผลว่า ยังคงต้องมีการศึกษาค้นคว้าอย่างละเอียดกว่านี้ และดับเบิลยูเอชโอขอให้ผู้ผลิตวัคซีนทุกแห่งแบ่งปันข้อมูลร่วมกัน ไม่ควรเป็นการตัดสินใจเพียงฝ่ายเดียว


ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของดับเบิลยูเอชโอ เกิดขึ้นหลังนายอัลเบิร์ต บูร์ลา ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร ( ซีอีโอ ) ของไฟเซอร์ กล่าวเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ว่ากำลังเร่งพัฒนาวัคซีนโควิด-19 รุ่นใหม่ เพื่อตอบสนองต่อเชื้อโอมิครอนโดยเฉพาะ และคาดว่า วัคซีนจะออกสู่ตลาดในเดือนมี.ค.นี้.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES